InfoQuest - นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์อัพ ตอบรับปัจจัยบวกเฉพาะตัวของบ้านเราเอง หลังจากกระทรวงการคลังได้มีการปรับเงื่อนไขกองทุน ThaiESG ใหม่ โดยให้ถือครองน้อยลงเหลือ 5 ปี จากเดิม 8 ปี และสามารถลดหย่อนภาษีได้มากขึ้น 300,000 บาท จากเดิม 100,000 บาท อีกทั้งยังปรับเพิ่มประเภทหุ้นยั่งยืนที่ ThaiESG สามารถเข้าไปลงทุนได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนหุ้นอีกราว 200 หุ้น จากเงื่อนไขเดิมที่มีจำนวนหุ้นราว 128 หุ้น ทำให้คาดว่าน่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้ามาในกองทุนดังกล่าวมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังคาดหวังว่าจะมี Window Dressing หลังหุ้นไทยปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก ซึ่งน่าจะหนุนให้นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยได้บ้าง จากมาตรการ Uptick ที่จะเริ่ม ประกาศใช้ในวันที่ 1 ก.ค.นี้
ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกได้เล็กน้อย
ให้แนวรับไว้ที่ 1,310-1,305 จุด และแนวต้าน 1,320-1,325 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (24 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,411.21 จุด เพิ่มขึ้น 260.88 จุด หรือ +0.67%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,447.87 จุด ลดลง 16.75 จุด หรือ -0.31% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,496.82 จุด ลดลง 192.54 จุด หรือ -1.09%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 38,833.90 จุด เพิ่มขึ้น 29.25 จุด หรือ +0.08%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 18,088.02 จุด เพิ่มขึ้น 60.31 จุด หรือ +0.33% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 2,962.77 จุด ลดลง 0.33 จุด หรือ -0.01%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 มิ.ย.) 1,316.73 จุด เพิ่มขึ้น 10.32 จุด (+0.79%) มูลค่าซื้อขาย 38,421.42 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 913.68 ล้านบาท (24 มิ.ย.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.(24 มิ.ย.)เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 1.11% ปิดที่ 81.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 มิ.ย.) อยู่ที่ 3.71 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 36.61 แข็งค่าเล็กน้อย จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ-ถ้อยแถลงจนท.เฟด
- 3 หน่วยงาน กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลัก
ทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จ่อดึงเม็ดเงิน 5.3 แสนล้าน ฟื้นหุ้นไทย มาจากปรับเงื่อนไขกองทุน TESG ใหม่ คาดเม็ดเงินไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้าน ใน 5 เดือนปีนี้ เตรียมตั้งกองทุนวายุภักษ์ใหม่ เพิ่มอีก 1.5 แสนล้านจาก 3.5 แสนล้าน เสนอขายรายย่อย ก่อน ก.ล.ต.ลั่นเปลี่ยนเงินออมเป็นเงินลงทุนระยะยาว หนุนความยั่งยืน "คลัง" เตรียม เสนอปรับเงื่อนไขกองทุน TESG เข้า ครม. ใน 2 สัปดาห์- การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศจะมีขึ้นในวันที่ 26 มิ.ย.2567 ที่อิมแพค ฟอรัม เมืองทองธานี โดยมีผู้ผ่านการคัดเลือก ระดับอำเภอและระดับจังหวัดเข้ามา 3,000 ราย แบ่งเป็นชาย 2,164 ราย และหญิง 836 ราย
- ตลท.โชว์รายชื่อ 261 หลักทรัพย์ผ่านเกณฑ์ Uptick จับตาหุ้นใหญ่ถูกซื้อกลับหลังเทียบปริมาณขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน ขึ้นแท่นสูงสุด BANPU-EA-TOP-BEM และ IVL ส่วนที่ตกชั้นไม่ผ่านเกณฑ์ ถึง 76 หุ้น นักวิเคราะห์ คาดหลังเปิดรายชื่อแรงซื้อกลับสัปดาห์นี้ ต้องระวังบางหุ้นมีการชอร์ตและซื้อกลับดัน ราคาหุ้นแล้ว เน้นเลือกหุ้นจากปัจจัยหนุนเพิ่มเช่น AWC-SIRI
- รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวปาฐกถาหัวข้อ "ทิศทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย และนโยบายในการส่งเสริมของภาครัฐ" ว่า รัฐบาลตั้งเป้าหาเงิน 3.5 ล้านล้านบาท ตั้งใจให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทย 36.7 ล้านคน เป็นเป้าหมายที่ใหญ่มาก ขณะนี้ทำได้แล้ว 1.1 ล้านล้านบาท มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาแล้ว 15 ล้านคน
- แหล่งข่าวจากสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาเพิ่มเงินชด เชยราคาดีเซลขึ้นอีกครั้งเป็น 2.02 บาทต่อลิตร จากเดิมชดเชยอยู่ 1.60 บาทต่อลิตร ส่งผลให้กองทุนมีเงินไหลออก 178.28 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งมากกว่าเงินไหลเข้า 158.47 ล้านบาทต่อวัน และทำให้กองทุนมียอดติดลบ 594 ล้านบาทต่อเดือน โดยสถานะกองทุนน้ำมัน ล่าสุด ณ วันที่ 23 มิ.ย.2567 ภาพรวมกองทุนยังคงติดลบรวม 110,743 ล้านบาท ซึ่งมาจากบัญชีน้ำมันติดลบ 63,121 ล้านบาท และมาจากบัญชีก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบ 47,622 ล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- GPSC (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 60.00 บาท มอง GPSC ราคาหุ้นปรับลงมามากและเป็นหุ้นติดอันดับต้น ๆ ที่ถูกชอร์ตหนัก มองระยะสั้นราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวจากกระแสซื้อกลับเพื่อลดหรือปิดสถานะขายชอร์ตซึ่งเชื่อว่าจะช่วยหนุนราคาหุ้นให้ฟื้นตัวได้ ขณะที่ด้านปัจจัยพื้นฐาน เราประเมินแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/67 เติบโตได้ทั้ง QoQ และ YoY และด้านภาพผลประกอบการทั้งปี 2567 เองก็ประเมินฟื้นตัวแรงราว 60%
- ADVANC (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 257.00 บาท เราคาด 3 ปัจจัยหลักในเชิงพื้นฐาน ที่จะสนับสนุนราคาหุ้นประกอบด้วย 1) กำไรหลักจะเติบโต 16% ในปี 67 2) อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 67 อยู่สูงที่ 5% และ 3) ราคาถูกเมื่อเทียบกับ TRUE และบริษัทโทรคมนาคมในอาเซียน ราคาเป้าหมายอิง DCF ของเรา ยังคงอยู่ที่ 257 บาท (WACC7.7%,Terminal
Growth 2.0%) ด้านผลประกอบการ ไตรมาส 2/67 เราคาดว่า รายได้จากการให้บริการและอัตรากำไรของเครื่องโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้นจะช่วยหนุนกำไรหลักแตะ 8.6 พันล้านบาท (+20.6% YoY, +0.3%QoQ) ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าบริษัทจะปรับเพิ่มเป้าหมายผลประกอบการของปี 67 ในเดือนส.ค. 67 นอกจากนี้เชื่อว่า ADVANC จะได้ประโยชน์จาก TESG ใหม่ โดยเราคาดว่าจะมีเม็ดเงินในช่วง 960-1600 ล้านบาท หนุนราคาหุ้นในระยะถัดไป- MINT (อินโนเวสท์เอกซ์) 1 ในหุ้นเด่นกลุ่มท่องเที่ยว คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/67 โตทั้ง YoY และ QoQ จากการเข้าสู่ High Season ของยุโรป อีกทั้งคาดจะได้ประโยชน์จากการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 ที่เยอรมนี (14 มิ.ย.-14 ก.ค.) Valuation ยังไม่แพง ซื้อขายบน PER 67F ที่ 23 เท่า ใกล้เคียง -1SD ของ PER เฉลี่ยในอดีต และยังไม่สะท้อนกำไรปกติปี 2567 คาดเติบโต 12%YoY สู่ 8 พันลบ.