InfoQuest - นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์ประคองฐาน ไร้ปัจจัยใหม่มีผลต่อดัชนีโดยเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดทำการ ขณะที่ในประเทศรอติดตามการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ในวันที่ 19-21 มิ.ย. ซึ่งพรุ่งนี้จะมีการลงมติ โดยเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ขณะที่ภาพรวมตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงของการเรียกความเชื่อมั่น โดยในระยะถัดไปน่าจะค่อย ๆ ดีขึ้น เนื่องจากประเด็นการเมืองที่น่าจะผ่านจุดที่หนักที่สุดไปแล้ว และตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมาตรการต่าง ๆ ออกมา ซึ่งมองว่าในระยะถัดไปน่าจะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นได้ เช่น การประกาศคุณสมบัติหุ้นที่สามารถ Short Sell ได้ และมาตรการ Uptick รวมทั้งการรื้อฟื้นกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ซึ่งหากมีความชัดเจนน่าจะเป็นปัจจัยหนุนดาวน์ไซด์ของตลาดได้ โดยคาดว่าภาพระยะสั้นดัชนีน่าจะแกว่งผันผวนสร้างฐาน
โดยให้กรอบแนวรับ 1,290 จุด และแนวต้าน 1,310 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันพุธที่ 19 มิ.ย.เนื่องในวันจูนทีนธ์ (Juneteenth)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 38,410.32 จุด ลดลง 160.44 จุด หรือ -0.42%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 18,453.63 จุด เพิ่มขึ้น 23.24 จุด หรือ +0.13% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 3,015.72 จุด ลดลง 2.33 จุด หรือ -0.08%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 มิ.ย.) 1,303.82 จุด เพิ่มขึ้น 6.41 จุด (+0.49%) มูลค่าการซื้อขายราว 63,065.98 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,719.09 ล้านบาท (19 มิ.ย.)
- ตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการวันพุธที่ 19 มิ.ย.เนื่องในวันจูนทีนธ์ (Juneteenth)
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 มิ.ย.) อยู่ที่ 3.72 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 36.69 แนวโน้มแกว่ง sideways รอปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง จับตาประชุม BoE
- "ตลาดหุ้นไทย" ยังถูกปัจจัยการเมืองกดดันจากความไม่ชัดเจน ส่งผลให้ เซนติเมนต์ตลาดหุ้น "ฟันด์โฟวล์" ยังไหลออกต่อ กระทบดัชนีหุ้นไทยวานนี้ (19 มิ.ย.) ร่วงต่ำสุด ของวัน 15.54 จุด โดย "นักลงทุนต่างชาติ" ขายกว่า 2.6 พันล้าน ด้าน "ภากร" ยันตรวจสอบ ไม่พบธุรกรรมผิดปกติฉุดหุ้นไทยร่วง แจงเหตุ หุ้นหลายตัวร่วงแรง เหตุถูก "ฟอร์ซเซล" ด้าน "ไพบูลย์" แนะรัฐเร่งคลอดมาตรการ กู้วิกฤติศรัทธา "บล.เอเซียพลัส" ตลาดหุ้น ขาดความเชื่อมั่นสูง จี้ผู้เกี่ยวข้องเรียกเชื่อมั่นด่วน
- ไทยบีเอ็มเอ" ชี้มรสุม ข่าวลบ "ตลาดหุ้นป่วน-รัฐเบิกจ่ายงบช้า-เศรษฐกิจชะลอ-ดอกเบี้ยทรงตัวสูง" สะเทือนตลาด "หุ้นกู้ไฮยีลด์" โดยเฉพาะกลุ่มเดิมที่นักลงทุนไม่เชื่อมั่น-ถูกหั่นเครดิต-ไร้ธรรมาภิบาล พร้อมรอประมาณสถานการณ์ครึ่งหลังชัดเจน ย้ำคงเป้า ยอดออกใหม่ 1 ล้านล้าน จากปัจจุบัน ยอดออกใหม่ชะลอตัว พร้อมจับตา "สบาย" เร่งหาทางออก "ล้างขาดทุน" ใน 6 เดือน เดินหน้าแก้ปัญหาจริงจัง เผยมีเงินชำระมีหุ้นกู้ครบกำหนดปลายปีนี้ 1.5 พันล้าน จาก 3.9 พันล้าน
- "นายกฯ" แถลงหลักการ ร่างงบปี 68 แจกหมื่นบาท ดิจิทัลวอลเล็ตถึงมือคนไทยปลายปี สร้างพายุทางเศรษฐกิจ ชี้งบภาครัฐไปสู่เอกชน กระตุ้นการใช้จ่ายบริการ สำนักงบฯ ยันตั้งงบรายจ่ายดิจิทัลวอลเล็ตใน พ.ร.บ.งบเพิ่มเติมปี 67 วงเงิน 9 หมื่นล้านเศษ ชงสภาฯ ก.ค.นี้ "กฤษฎีกา" รอคลังเสนอโครงการ ผ่าน ครม.ชี้ขาด ข้อกฎหมายใช้เงิน ธ.ก.ส.ตามขั้นตอน ผู้ว่าธปท.ย้ำจุดยืน 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ไม่จำเป็น
- รอลุ้น! "คลัง" ชี้อยู่ระหว่างพิจารณาเคาะสินค้าแพลตฟอร์มออนไลน์ ร่วมแจมใช้เงินหมื่นดิจิทัล แจงยิบสั่งถอย "สมาร์ทโฟน-เครื่องใช้ไฟฟ้า" ห่วงผิดวัตถุประสงค์ อ้างยังมีเวลาส่งกฤษฎีกาตีความล้วงเงิน ธ.ก.ส. 1.75 แสนล้าน พร้อมยันสภาพคล่องแน่นปึ้ก
- ศูนย์อสังหาริมทรัพย์เปิดผลสำรวจตลาดที่อยู่อาศัย กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 1/67 เผชิญปัจจัยรุมเร้าเพียบ กดดันตลาดติดลบ เปิด 5 โซนอันตราย บ้าน-คอนโดเหลือขายบาน
- ส.อ.ท.โอดดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ ลดต่ำอีกระลอก รับเศรษฐกิจไทยยังผันผวน กำลังซื้อเปราะบางจากหนี้ครัวเรือน-หนี้เสีย เผย 5 เดือนแรกพบมีโรงงานปิดตัว 561 แห่ง แรงงานตกงาน 15,342 ราย หวังรัฐเร่งดูแลทุกองค์ประกอบ
- ช็อก! พบหลายหุ้นขนาดเล็กใช้หลักทรัพย์วางเป็นประกันการชำระหนี้ในบัญชีมาร์จิ้นสูงลิ่ว นำโดย SCM 52.09% รองลงมาคือ GPI 51.12% ส่วนหุ้นอื่นๆ ที่น่าสนใจคือ YGG 46.37% และ NRF ที่ราคาร่วงติดฟลอร์ 2 วัน 38.20% ด้านตลาดหลักทรัพย์ฯ เตือนนักลงทุนศึกษาข้อมูลหุ้นที่ใช้หลักทรัพย์วางเป็นประกันการชำระหนี้ก่อนเข้าลงทุน
*หุ้นเด่นวันนี้
- TRUE (กรุงศรี) ราคาเป้าหมาย 10.30 บาท เราคาดกำไรปกติ ไตรมาส 2/67 ที่ 1.1 พันล้านบาท ดีกว่าที่เราคาดไว้เดิม พลิกจากขาดทุนช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -2.1 พันล้านบาท และเพิ่มขึ้นเร่ง +44%q-q ขับเคลื่อนจากรายได้ธุรกิจหลักทั้งบริการมือถือและอินเตอร์เนตที่ยังขยายตัวได้ต่อ สะท้อนภาพ Upcycle ของอุตสาหกรรม แม้เป็นช่วงนอกฤดูกาล และต้นทุนที่ยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องทั้งต้นทุนบริการและค่าใช้จ่ายขายบริหาร มองกำไรทั้งปีเริ่มมี Upside
- GULF (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐานที่ 50.50 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาในเขตขายมาเกินไป และมีการดีดตัวขึ้นเมื่อวานนี้ มองได้ Sentiment เชิงบวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลดลง เราคาดว่ากำไรปกติไตรมาส 2/2567 จะเพิ่มขึ้นทั้งเชิง YoY และ QoQ รวมถึงคาดจะทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยได้แรงหนุนจากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และมองว่ายังเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก PDP ฉบับใหม่ เนื่องจากมีความพร้อมทั้งด้านประสบการณ์ และฐานะทางการเงิน รวมถึงทิศทางบริษัทที่มุ่งเน้นการลงทุนในประเทศเป็นหลัก ระยะสั้นได้รับผลกระทบจำกัดจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวสูงขึ้นแต่สัดส่วนรายได้จากลูกค้าอุตสาหกรรมมีอยู่เพียง 7-8%
- CPALL (BK:CPALL) (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 78.00 บาท มองผลประกอบการยังแข็งแกร่ง แถมลุ้น Cover Short
ทิศทางผลประกอบการไตรมาส 2/67 ยังมีโอกาสเติบโตได้ต่อ YoY ตาม SSSG ช่วง 2QTD ที่ยังขยายตัวหลักเดียวกลางๆ เช่นเดียวกับอัตราการทำกำไรขั้นต้นดีขึ้น เนื่องจาก Product Mix จากสินค้า Margin สูงที่ขายดี อาทิ อาหาร Ready to Eat และ Personal Care ด้านกำไรทั้งปี 67E คาดเติบโต 25%YoY ทำระดับ All Time High แถมมี Upside จากมาตรการ Digital Wallet ช่วงปลายปี ด้าน Valuation ซื้อขายบน PER67E22 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีเกือบ 2 S.D.แรงหนุนระยะสั้นเราเชื่อว่า CPALL เป็นหุ้นที่มีโอกาสถูก Cover Short เพราะราคาหุ้นลงมาแรง -6.8% V.S. SET -4.5% พร้อมด้วยการปริมาณ Short ที่สูง ตั้งแต่กลางเดือน พ.ค. จากความกังวลต่อการเมืองกระทบเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งเราเชื่อว่าปัจจุบันผ่านจุดแย่ที่สุดแล้ว