InfoQuest - นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดปรับตัวลง เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย รับ Sentiment เชิบลบจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวขึ้น 0.14% และค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 272,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง ทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ขณะที่ในประเทศยังคงมีแรงกดดันจากปัจจัยการเมือง ซึ่งต้องรอความคืบหน้าทั้งคดีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรีนายทักษิณ ชินวัตร รวมถึงคดียุบพรรคก้าวไกล
นอกจากนี้นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 11-12 มิ.ย.นี้ และ การประชุมธนาคารกลางในหลายประเทศ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ส่วนในประเทศติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันที่ 12 มิ.ย.นี้
ให้แนวรับที่ 1,320 จุด และแนวต้าน 1,340-1,345 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (7 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,798.99 จุด ลดลง 87.18 จุด หรือ -0.22%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,346.99 จุด ลดลง 5.97 จุด หรือ -0.11% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,133.12 จุด ลดลง 40.00 จุด หรือ -0.23%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 38,689.78 จุด เพิ่มขึ้น 5.85 จุด หรือ +0.01% ส่วนตลาดหุ้นจีน, ไต้หวัน และฮ่องกงปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลแข่งเรือมังกรหรือวันไหว้บ๊ะจ่าง
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 มิ.ย.) 1,332.74 จุด เพิ่มขึ้น 4.33 จุด (+0.33%) มูลค่าซื้อขาย 40,330.79 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (7 มิ.ย.) 471.97 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. (7 มิ.ย.) ลดลง 2 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 75.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 มิ.ย.) อยู่ที่ 3.44 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 36.93 อ่อนค่าหลังบอนด์ยีลด์หนุนดอลลาร์แข็งค่า มีโอกาสแตะ 37.01
- "เอกชน" มองปัจจัยเสี่ยงครึ่งปีหลัง กังวลการเมืองกระทบความเชื่อมั่น "ดับบลิวเอชเอ-หอการค้า" ชี้นักลงทุนเร่งถามเสถียรภาพการเมือง "ส.อ.ท.-ไออาร์พีซี" ชี้ต้องปรับโครงสร้างภาคการผลิต "บิทคับ" เตือนเลือกตั้งสหรัฐเปลี่ยนเศรษฐกิจโลก สรท.ห่วงภูมิรัฐศาสตร์ตะวันออกกลางกระทบค่าระวางเรือ "ซินเน็ค" รอลุ้นกำลังซื้อครึ่งปีหลัง "เสนาฯ" แนะรัฐบาลเพิ่มรายได้เพื่อลดหนี้
- อุตฯฮาร์ดดิสก์ในไทยยังมีอนาคต 80% ของฮาร์ดดิสก์โลกผลิตในไทย ครองตลาดคลาวด์-เซิร์ฟเวอร์ทั้งโลกกว่า 75% เชื่ออีก 5 ปีข้างหน้ามั่นใจฮาร์ดดิสก์โลกยังยึดไทยเป็นฐานผลิต จับตา 3 ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ พลังงานสีเขียว ภาษี GMT "ฮานา" เผยมุ่งลงทุนโจทย์นวัตกรรมขั้นสูง "เดลต้า" มีงานรองรับเทคโนโลยี AI แล้ว ส่วน "เคซีอี" อ้าแขนรับผลบวกยานยนต์ไฟฟ้ายกระดับ
- "เสริมศักดิ์" เร่งปั๊มรายได้ท่องเที่ยวเพิ่มอีก 5 แสนล้านบาท ดันตัวเลขถึงเป้าหมาย 3.5 ล้านล้านบาท เรียกประชุมใหญ่หน่วยงานในสังกัด เสนอโปรเจ็กต์ ของบประมาณขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวครึ่งหลังเพิ่ม 14 มิ.ย.นี้ มั่นใจนายกฯเศรษฐาสนับสนุนเต็มที่ ยัน 6 เดือนหลังที่เหลือมีว้าวทุกเดือน เผย 5 เดือนแรกมีจำนวนนักท่องเที่ยว ต่างชาติ 15 ล้านคน โกยรายได้เข้าประเทศรวมกว่า 8.4 แสนล้านบาท
- เอกชนตั้งรับ "ลานีญา" ผวาลามธุรกิจ-เศรษฐกิจ รง.แปรรูปอาหารเตรียมแผนสำรองวัตถุดิบ ป้องกันสินค้าขาดแคลนส่งมอบคู่ค้า ลุ้นเป้าส่งออกอาหาร 1.6 ล้านล้านบาท ยังเป็นไปตามคาดการณ์ สภาอุตฯจี้รัฐเตรียมแผนรับมืออย่างเป็นระบบ หวังไม่ซ้ำรอยท่วมใหญ่ปี 54 ส่งออกข้าวยังมั่นใจ 8 ล้านตัน
- "พาณิชย์" เตรียมแผนผลักดันส่งออกไทยครึ่งปีหลัง งัด 7 กลยุทธ์ โหม 50 กิจกรรม เดินสายเปิดตลาด มุ่งเจาะเมืองรอง ปั้นกระแสปลุกซอฟต์พาวเวอร์ ดึงอินฟลูเอนเซอร์เสริมทัพพรีเซนต์สินค้าไทย ปักธงโปรโมตร้านอาหาร Thai SELECT
*หุ้นเด่นวันนี้
- TU (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมายปี67 19.50 บาท กำไรปกติไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 892 ลบ.(+10.60%YoY, -24.12%QoQ) สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ดีYoY ในส่วน ของ operation หลักจากธุรกิจ Petcare และ Ambient Seafood ส่วน 2Q67 เราคาดเห็นกำไรแกว่งขึ้น YoY QoQ จาก 1.ฐานต่ำปกติในไตรมาส 1/66 จากในช่วงเวลาดังกล่าว Inventory คู่ค้าอยู่ในระดับสูงจึงไม่ออเดอร์สินค้าใหม่ 2.คาดต้นทุนราคาปลาทูน่าอยู่ในระดับต่ำ 1,300-1,500 usd/ton (จากช่วงไตรมาส 2/66 ที่ 2,000 usd/ton ) ทั้งนี้ราคาปลาทูน่าที่มีโอกาสแกว่งจากโซนล่าง(ราว1,300 usd/ton ในไตรมาส 1/67)ขึ้นบน(แต่ไม่สูงเกินไป ไม่สูงกว่า 1,800 usd/ton โดย เม.ย.67 ที่ 1,375 usd/ton& พ.ค.67ที่ 1,480 usd/ton) นอกจากต้นทุนสินค้าใน Inventory ถูกแล้ว ยังดีต่อการปรับราคาขายOEMขึ้นด้วย เป็นบวกมากต่อมาร์จิ้น
- ADVANC (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 248.93 บาท มอง ADVANCเป็นหุ้นผันผวนต่ำ ขณะที่ให้อัตราปันผลที่สูงและมึความสม่ำเสมอ ส่งผลให้ความเสี่ยงเชิง downside risk ที่จะมีจากผลกระทบจากปัจจัยภาพใหญ่ของตลาดหรือ systemic risk ต่อ ADVANC จะน้อยกว่า ขณะที่ด้านปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ผลประกอบการ Q1/67 เติบโตดีกว่าคาด แรงทั้ง QoQ และ YoY ขณะที่ผู้บริหารคงเป้ารายได้เติบโตปีนี้ 13-15% สะท้อนทิศทางการดำเนินการแข็งแกร่งตามแผนและส่วนผลของการขาดทุนจาก TTTBB ก็มีแนวโน้มลดลง
- CPALL (BK:CPALL) (ไอร่า)เป้าหมาย 61.00/63.50 บาท คาดว่ากำไรไตรมาส 2/67 มีโอกาสเติบโตโดดเด่น YoY และคาดจะดีขึ้น QoQ จากช่วงวันหยุดยาว และช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาคนเข้า 7-11 มากขึ้นขณะที่ในช่วงปลายปีคาดจะได้รับแรงหนุนจากโครงการ Digital Wallet อีกทั้งเราคาดว่า CPALL มี Downside ที่จำกัดจากการเป็นเป้าหมายของกองทุน LTF ที่คาดจะกลับมาในช่วงไตรมาส 3-4 ปี67 นี้