InfoQuest - นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งฟื้นตัว หลังจากวานนี้ชะลอตัวลงเล็กน้อย สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี โดยมีแรงหนุนจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีภาคบริการของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 51.4 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 52.6 ในเดือนก.พ. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 52.7 อย่างไรก็ดีดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคบริการของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว
ประกอบกับ ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวย้ำมุมมองที่ว่า เฟดมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวลง
ทั้งนี้ตลาดหุ้นเอเชียบางประเทศปิดทำการ เนื่องในวันเช็งเม้ง ได้แก่ ตลาดหุ้นจีน ฮ่องกง และไต้หวัน อาจทำให้ปริมาณการซื้อขายเบาบาง
ให้แนวรับไว้ที่ 1,370 จุด และแนวต้าน 1,384 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (3 เม.ย.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,127.14 จุด ลดลง 43.10 จุด หรือ -0.11%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,211.49 จุด เพิ่มขึ้น 5.68 จุด หรือ +0.11% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,277.46 จุด เพิ่มขึ้น 37.01 จุด หรือ +0.23%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 39,928.33 จุด เพิ่มขึ้น 476.48 จุด หรือ +1.21% ส่วนตลาดหุ้นจีน ไต้หวันและฮ่องกงปิดทำการวันนี้ (4 เม.ย.) เนื่องในเทศกาลเช็งเม้ง
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 เม.ย.) 1,375.69 จุด ลดลง 3.77 จุด (-0.27%) มูลค่าการซื้อขาย 41,843.43 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,581.61 ล้านบาท (3 เม.ย.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. (3 เม.ย.) เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.33% ปิดที่ 85.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 เม.ย.) อยู่ที่ 4.33 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 36.60 แข็งค่า รับดอลลาร์อ่อนค่า-บอนด์ยีลด์ชะลอ หลังดัชนี ISM สหรัฐต่ำคาด
- "ราคาทองโลก-ไทย" พุ่งร้อนแรง ทำออลไทม์ไฮครั้งใหม่ทองโลกแตะ 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ดันทองไทยรูปพรรณทะลุ 40,000 บาท "สมาคมค้าทองคำ" ชี้เดือนเม.ย. นี้ แตะ 42,000 บาท และทิศทางเป็น "ขาขึ้น" ต่อเนื่อง ขานรับธนาคารกลางหลายประเทศแห่ตุนทอง หวังลดถือครอง "ดอลลาร์" ด้าน "บาทอ่อนค่า" ต่อเนื่อง "วายแอลจี"ใ ห้เป้าใหม่ปีนี้ที่ 2,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เปิด "4 ปัจจัย" หนุนราคาทะยาน "ดอกเบี้ยขาลง-เทคนิคแกร่ง-แรงซื้อจากจีน-ธนาคารกลางสะสม"
- เจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภคปี 67 คนไทยผิดหวัง หลังการเลือกตั้งมีรัฐบาล ยกให้เป็นปีแห่ง "คุณหลอกดาว"เหตุ"เศรษฐกิจไม่ฟื้น" "สินค้าแพง"ค่าครองชีพสูง แหล่งรายได้เสริมที่มั่นคงหายากกว่าเดิม ถึงขั้นแปลงบัตรประชารัฐเป็นเงินเข้ากระเป๋า ด้านบริบทชีวิต พึ่งตัวเองมากขึ้น เงินทุน ทรัพยากรที่มีต้องนำมาใช้จ่าย รัดเข็มขัด เน้นความคุ้มค่าแต่จนแค่ไหน ยังควักเงินซื้อลอตเตอรี่ เพราะให้ความบันเทิงในชีวิต "สายมู" ยังมาแรง ความหวังที่พึ่งทางใจ
- กกร.ประเมินอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ว่ามีแนวโน้มเติบโตได้ในกรอบประมาณการที่ 2.8-3.3% การส่งออกอยู่ที่ 2-3% เงินเฟ้ออยู่ที่ 0.7-1.2% ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่มีความเสี่ยงเติบโตได้ต่ำลง จากข้อจำกัดเชิงโครงสร้างของไทย ที่กระทบต่อการผลิต โดยเฉพาะการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่มีขนาด 1 ใน 4 ของเศรษฐกิจของประเทศไทย กำลังเผชิญปัญหา ไม่สามารถส่งออกได้เต็มศักยภาพ ทำให้การส่งออกฟื้นตัวได้ช้าไม่ทั่วถึง เช่น รถยนต์สันดาป ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (Hard Disk Drive) และผลิตภัณฑ์พลาสติก ชะลอตัวลงจากปัจจัยทั้งระยะสั้นและระยะยาว
- ศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับคำร้องของ กกต.เสนอให้ยุบพรรคก้าวไกล เหตุเสนอแก้ไขมาตรา 112 เป็นการล้มล้างการปกครองฯ ให้โอกาสยื่นแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน "ชัยธวัช" ลั่น สู้เต็มที่ หลัง รธน.ให้เวลาแก้ต่าง 15 วัน ขออย่าด่วนสรุปผล เตรียมยื่นชี้แจงควบคู่แถลงต่อสาธารณะหลังสงกรานต์
- "สุริยะ" สั่งหน่วยงานด้านการบินเตรียมพร้อมรับการตรวจสอบมาตรฐาน FAA ภายในปีนี้ หวังดันไทยปลดล็อกสู่ CAT1 กลับบินเข้าน่านฟ้าอเมริกา กพท.เผยฟรีวีซ่าหนุนนักท่องเที่ยว จีน-อินเดียเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง
*หุ้นเด่นวันนี้
- QTCG ประกาศความพร้อมเริ่มซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ในวันที่ 4 เมษายนนี้ ภายใต้ชื่อย่อว่า "QTCG" ราคา IPO ที่ 1.20 บาท โดยจะนำเม็ดเงินจากการระดมทุนครั้งนี้ไปต่อยอดศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจสู่การขยายโอกาสการรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร (Mechanical & Electrical : M&E) ในอนาคต
- SAK (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 6.7 บาท เราคาดการณ์แนวโน้มสดใสและคาดว่ากำไรปกติจะเติบโต 17% YoY ในปี 2567 โดยได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล หลังจากอนุมัติงบประมาณปี 2567 และแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงจะช่วยให้ต้นทุนการเงินลดลง เราคาด ROE ของ SAK จะเร่งตัวขึ้นเป็น 14.8%/16.9% ในปี 2024-25E vs. ระดับก่อนโควิดที่ 15.4% ทำให้หุ้นมีโอกาสถูก re-rate ในเชิง PBV เราชอบ SAK ในด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่มีการควบคุมอย่างดี แนวโน้มการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งและมูลค่าปัจจุบันที่น่าสนใจกรอบ SET: 1,370-1,390 จุด
- SNNP (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 24.00 บาท กำไรไตรมาส 1/67 โตกลางๆ แต่จะเร่งขึ้นในไตรมาส 2/67
คาดกำไรไตรมาส 1/67 เติบโตกลางๆ ที่ 6% YoY (แต่ -1% QoQ จากผลกระทบตามฤดูกาล) สู่ระดับ 163 ล้านบาท หนุนจากยอดขายต่างประเทศจะเพิ่มขึ้น 12% YoY ยอดขายในเวียดนามโต 8% YoY ด้านยอดขายในประเทศเติบโตเล็กน้อย YoY เนื่องจากกำลังซื้อที่อ่อนแอ เราคาดว่ากำไรจะเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/67 เป็นต้นไป เนื่องจากการบริโภคในประเทศที่ดีขึ้น การออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเวียดนามและการสร้างโรงงานผลิตในเวียดนามแล้วเสร็จในต้นปี 2567 จะช่วยหนุนรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นได้ด้วยเช่นกัน ราคาหุ้นซื้อขายที่ PER67 ที่ 22 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีอยู่ 1 SD และเท่ากับกลุ่ม F&B แต่ SNNP มีกำไรเติบโตแข็งแกร่งที่ 22% เทียบกับ 19% ของกลุ่ม