InfoQuest - ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (28 ก.พ.) โดยถูกกดดันจากการเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกจับตารอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซนและของสหรัฐในสัปดาห์นี้เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 494.59 จุด ลดลง 1.74 จุด หรือ -0.35%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,954.39 จุด เพิ่มขึ้น 5.99 จุด หรือ +0.08%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 17,601.22 จุด เพิ่มขึ้น 44.73 จุด หรือ +0.25% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,624.98 จุด ลดลง 58.04 จุด หรือ -0.76%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 สัปดาห์ แต่ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่เป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นแอร์บัสที่พุ่งขึ้น 3.9%
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลงมากที่สุด 1.8% หลังบริษัทเทย์เลอร์ วิมพีย์ รายงานผลกำไรต่อปีลดลงและเปิดเผยว่าบริษัทจะสร้างบ้านน้อยลงในปีนี้
หุ้นกลุ่มก่อสร้างบ้านร่วงลง 4.8% ขณะที่หุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคลและครัวเรือนร่วง 1.2% เนื่องจากหุ้นเรกคิทท์ ดิ่งลง 13.3% หลังเปิดเผยยอดขายสุทธิในไตรมาส 4 ต่ำกว่าคาด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ร่วงลง 1.4% โดยหุ้นจัสต์ อีต เทคอะเวย์ ซึ่งเป็นบริษัทรับส่งอาหาร ร่วง 1.8% เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่บริษัทไม่มีแผนการใหม่ที่จะซื้อหุ้นคืน
บรรดานักลงทุนรอการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ (29 ก.พ.) และข้อมูลเงินเฟ้อจากยูโรโซนในวันศุกร์ (1 มี.ค.)
นายหลุยส์ เดอ กินดอส รองประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยอมรับว่า อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง แต่เรียกร้องให้มีการยืนยันเพิ่มเติมก่อนที่จะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ส่วนนายปีเตอร์ คาซิเมียร์ ประธานธนาคารกลางสโลวาเกียแสดงความเห็นที่คล้ายกัน โดยแนะนำให้ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงเดือนมิ.ย.