InfoQuest - นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์อัพหลังปิดตลาดวานนี้ดัชนียืนเหนือ 1,400 จุดได้ ถือเป็นสัญญาณบวกในทางเทคนิค ขณะที่บรรยากาศการลงทุนทั่วโลก ยังเอื้อต่อตลาดหุ้นไทยให้บวกได้ต่อ จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) อ่อนตัวลง และค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่า เป็นปัจจัยหนุนต่อเงินทุนต่างชาติ (Fund Flow) ไหลเข้าต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ตลาดคงไม่ได้ปรับตัวขึ้นร้อนแรง ให้กรอบแนวรับไว้ที่ 1,390-1,395 จุด และแนวต้าน 1,410 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (7 ก.พ.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,677.36 จุด เพิ่มขึ้น 156.00 จุด หรือ +0.40%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,995.06 จุด เพิ่มขึ้น 40.83 จุด หรือ +0.82% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,756.64 จุด เพิ่มขึ้น 147.65 จุด หรือ +0.95%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 15,988.62 จุด ลดลง 93.27 จุด หรือ -0.58% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,832.49 จุด เพิ่มขึ้น 2.79 จุด หรือ +0.10% ขณะที่ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 36,258.84 จุด เพิ่มขึ้น 138.92 จุด หรือ +0.38%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 ก.พ.) ที่ 1,400.02 จุด เพิ่มขึ้น 3.06 จุด (+0.22%) มูลค่าการซื้อขาย 45,550.88 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,016.26 ล้านบาท (7 ก.พ.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.(7 ก.พ.) เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 0.75% ปิดที่ 73.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 ก.พ.) อยู่ที่ 9.46 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.60 แนวโน้มแกว่ง sideway จับตาทิศทาง Flow-รอปัจจัยใหม่
- กนง.คงดอกเบี้ย 2.50% ท่ามกลาง 2 เสียงเรียกร้องให้ลดดอกเบี้ย 0.25% รับเศรษฐกิจไทยปีนี้ชะลอกว่าคาดและฟื้นตัวช้า ขณะที่ปัญหาเชิงโครงสร้างอาจฉุดศักยภาพเศรษฐกิจระยะยาวต่ำลง ย้ำลดดอกเบี้ยไม่ช่วยแก้ปัญหา แต่อาจกระทบเสถียรภาพการเงิน รอดูจีดีพี เงินเฟ้ออีก 2-3 เดือน แล้วมาทบทวนใหม่ "เศรษฐา" ค้านมติแต่ไม่แทรกแซง "ภาคเอกชน" ชี้สวนความต้องการขาดแรงหนุนลงทุน
- ป.ป.ช. ชง 8 จุดเสี่ยงแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเสนอรัฐบาล ยันไม่ได้ค้านโครงการแค่ป้องปรามการทุจริต ย้ำ ศก. ชะลอตัวไม่ถึงขั้นวิกฤต แนะปรับเกณฑ์แจกเฉพาะกลุ่มเปราะบาง "เศรษฐา" สวนทันทีไม่มีหน้าที่ขีดเส้น บอกทำตามความต้องการ ปชช. ข้องใจใครเข้าเกณฑ์แจกเอาอะไรกำหนด "ศิริกัญญา" ยุส่งเดินหน้าอย่าสนคำแนะนำ "กนง." เมินแรงบีบ มีมติ 5:2 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.50% ชี้สอดคล้องการขยายตัวเศรษฐกิจ "นายกฯ" ขัดใจ กนง. อ้างเงินเฟ้อติดลบ 4 เดือนแล้ว
- เดือน ก.พ.67 บรรยากาศลงทุนใน "ตลาดหุ้นไทย" ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนกระแสเงินลงทุนต่างชาติ ไหลเข้ามาต่อเนื่อง 4 วันติดต่อกัน พลิกกลับมาซื้อสุทธิ 7,000 ล้าน จากม.ค. 67 ขายสุทธิ 30,870 ล้าน ดัชนีเดือนม.ค. ปิดที่ 1,364.52 จุด ปรับลด 3.6% จากเดือนก่อน
- จับตา ก.ล.ต.จ่อคุมเข้มโปรแกรมเทรด (โรบอทเทรด) เปิดหุ้นมีโอกาสถูกดึงสถานะเร็ว และ Outperform ระยะสั้น HMPRO CRC SCGP CPALL (BK:CPALL) GLOBAL SCC AP ด้าน กนง.มติไม่เป็นเอกฉันท์คงดอกเบี้ย 2.50% ส่งซิกดอกเบี้ยขาลงอาจมาเร็วกว่าคาด หุ้นเช่าซื้อ กลุ่มโรงไฟฟ้า วิ่งกันคึก ด้าน "ภากร" ผู้จัดการตลาดฯ ชี้ เริ่มเห็นต่างชาติเข้า พร้อมย้ำไม่พบการทำ Naked Short sell
- กกร.ยังคงเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปี 67 ไว้เท่าเดิมที่ 2.8-3.3% ซึ่งยังไม่รวมผลของมาตรการเงินดิจิทัลวอลเล็ต เช่นเดียวกับการส่งออกที่ 2-3.3% ส่วนเงินเฟ้ออยู่ที่ 0.7-2% โดยขณะนี้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวได้แต่ยังอ่อนแอ แม้ภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจ แต่ภาคการผลิตหดตัวต่อเนื่อง ทำให้การฟื้นตัวไม่ทั่วถึง ส่วนเงินเฟ้อทั่วไปที่ติดลบต่อเนื่องเป็นสัญญาณความอ่อนแอของเศรษฐกิจในประเทศ ถือเป็นสัญญาณที่ควรติดตาม
- นายกรัฐมนตรีต้อนรับ "ฮุน มาแนต" นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขก ของรัฐบาล พร้อมลงนามความร่วมมือระหว่างกัน 5 ฉบับ โฆษกรัฐบาลเผย เตรียมเดินหน้ากระชับความร่วมมือตามชายแดน เพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุน พร้อมแสวงหาความร่วมมือด้านความมั่นคงทางพลังงาน การแก้ปัญหา PM2.5 อาชญากรรมข้ามพรมแดน ท่องเที่ยว และแรงงาน
*หุ้นเด่นวันนี้
- HMPRO (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 11.50 บาท ราคาเริ่มวกตัวกลับ HMPRO เป็นหนึ่งในหุ้นที่ผิดหวังมาตรการกระตุ้นต่างๆและเชื่อว่าว่ามาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมด้วย แต่ถ้ามองแบบ tactical call ราคาลงมาแรงแล้วเร็ว มีโอกาสเล่น rebound ได้ คาดกำไรปกติไตรมาส 4/66 ที่ 1.7 พันล้านบาท -6% YoY,+11% QoQ จาก SSSG ขยายตัวราว 3-4% ขณะที่รายได้โต +11% YoY หลักๆจากสาขาเพิ่มขึ้น MegaHome 4 สาขา HomePro 1 สาขา กำไรดีกว่าไตรมาสที่ผ่านมาตัวแปรที่มีผลเป็นเรื่อง กำไรไตรมาส 1 รับ e-receipt 50,000 บาทน่าจะทำให้รายได้สูงขึ้น (แต่ยังไม่มั่นใจว่า เดือน ธ.ค.ยอดขายจะชะลอไปบ้างหรือไม่)
- BJC (เคจีไอ) เป้า Consensus 32.09 บาท Laggard กลุ่มค้าปลีก Consensus คาดกำไรปีนี้จะโต +14% YoY เป็น +/- 5.6 พันล้านบาท ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศและภาคการท่องเที่ยว รวมทั้งมาตรการภาครัฐฯ อาทิ Easy E-Receipt ใน Q1/67 3) Valuation ถูกเมื่อเทียบกับกลุ่มฯ โดย Forward PE ปีนี้ 18.6 เท่า และ PBV 0.87 เท่า ประเมินแนวรับ 25 บาท / แนวต้าน 26.5-27.0 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านแรกไปได้ประเมินมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน +/- 28 บาท (Trailing stop 24 บาท)
- PTT (BK:PTT) (เมย์แบงก์) "ซื้อ" แต่ลดราคาเป้าหมายเหลือ 40 บาท จาก 42 บาท สะท้อนต้นทุนก๊าซของโรงแยกก๊าซ (GSP) ที่สูงขึ้น แต่มองว่าการเปลี่ยนแปลงนี้น่าจะเป็นภาระเงินอุดหนุนครั้งสุดท้าย และคาดว่ากำไรจะเติบโต 16%/9% ในปี 68/69 โดยได้รับแรงหนุนจากราคาก๊าซทั่วโลกที่ลดลงและส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากบริษัทในเครือ Valuation ยังคงน่าสนใจที่ P/BV 0.8 เท่า ซึ่งเป็นส่วนลดที่สูงมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยปี 10 ปีที่ 1.2 เท่า และต่ำกว่า PTTEP ซึ่งเทรดที่ P/BV 1.1 เท่าอยู่มาก