InfoQuest - น.ส.ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้รีบาวด์ได้บ้าง หลังวานนี้กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือน พ.ย.66 ติดลบมากกว่าตลาดคาด ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ก็อยู่ในเกณฑ์ชะลอตัวลง ส่วนความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับขึ้นต่อเนื่อง 4 เดือนติดต่อกัน รวมถึงยังมีมาตรการช่วยค่าครองชีพจากภาครัฐตรึงราคา LPG ที่ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัมต่ออีก 3 เดือน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค.67 คาดเป็นบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการจับจ่ายใช้สอย กลุ่มค้าปลีก การบริโภค และท่องเที่ยว
อีกทั้งในวันนี้จะมีการเปิดขายกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund) หรือ THAI ESG ล็อตแรก 22 กองทุน จาก 16 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) คาดจะช่วยให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ โดยหากดูสถิติของ LTF พบว่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลังมีเงินไหลเข้ากองทุนราว 10,000 ล้านบาท ในช่วงเดือน ธ.ค. ประเด็นดังกล่าวก็อาจทำให้ตลาดกลับมาคึกคักขึ้นได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยบ้านเราจะเข้าสู่วันหยุดยาว โดยจะเปิดทำการอีกครั้งในวันอังคารที่ 12 ธ.ค.66 ซึ่งระหว่างนี้ยังต้องติดตามปัจจัยในต่างประเทศ คืนนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐ และในสัปดาห์หน้าวันที่ 12-13 ธ.ค. จะมีการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ให้แนวรับไว้ที่ 1,370 จุด และแนวต้าน 1,390 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (7 ธ.ค.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,117.38 จุด เพิ่มขึ้น 62.95 จุด หรือ +0.17%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,585.59 จุด เพิ่มขึ้น 36.25 จุด หรือ +0.80% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,339.99 จุด เพิ่มขึ้น 193.28 จุด หรือ +1.37%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,600.47 จุด ลดลง 257.84 จุด หรือ -0.78% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,373.44 จุด เพิ่มขึ้น 27.55 จุด หรือ +0.17% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,965.39 จุด ลดลง 0.82 จุด หรือ -0.03%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 ธ.ค.66) ที่ 1,378.73 จุด ลดลง 10.82 จุด (-0.78%) มูลค่าการซื้อขาย 41,649.80ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,003.46 ล้านบาท (7 ธ.ค.66)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.(7 ธ.ค.) ลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 69.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 ธ.ค.66) อยู่ที่ 7.32 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.18 แข็งค่าตามเงินเยน หลังตลาดคาด BOJ ใกล้ยุตินโนบายดอกเบี้ยติดลบ
- "เศรษฐา" เผย "เทสลา" ลงทุนไทย 100% เร่งหาพื้นที่ลงทุน 2 พันไร่ ดูความพร้อม 3 นิคมอุตสาหกรรม เพื่อตั้งโรงงานประกอบรถและซัพพลายเชน หลังจากรุกตลาดไทยเต็มที่มาตั้งแต่ปี 2565 ส่งรถที่ผลิตจากจีนมาขาย ลดราคาแข่งทำตลาดอีวีไทย นายกฯ มั่นใจดีลใหญ่โรงงานชิป TSMC ไต้หวัน มีโอกาสสูงลงทุนไทย เตรียมเงินกองทุนเสริมขีดความสามารถแข่งขัน อุดหนุนค่าที่ดิน ก่อตั้งโรงงาน 50%
- บจ.ไทย มีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจไทยปี 2567 จะฟื้นตัวได้ดีจากปีก่อน โดยให้น้ำหนักปัจจัยหนุนมากสุด คือ "ภาคการท่องเที่ยว" ปัจจัยเสี่ยงกังวล "หนี้ภาคครัวเรือน" ต่อเนื่องจากปี 2566 ท่ามกลางต้นทุนแรงงาน พลังงาน และราคาวัตถุดิบแนวโน้มเพิ่มขึ้นชัดเจน พร้อมกังวลปัญหาธุรกิจ "สภาพคล่อง" กระทบหนักโดยเฉพาะการจ่ายคืนหนี้ของลูกหนี้การค้าที่เริ่มมีโอกาสหนี้สูญเพิ่มขึ้น
- "เฟทโก้" งัดแผนเพิ่มเสน่ห์ "ตลาดทุนไทย" เรียกเชื่อมั่นนักลงทุน เตรียมตั้งโครงการวิเคราะห์หุ้นเล็ก สกัดการปั่นราคา หวังรายย่อยเข้าถึงข้อมูล บจ.มากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงการตกแต่งบัญชี มั่นใจลดโอกาสเกิดเหตุซ้ำรอย "สตาร์ค-มอร์"
- "เศรษฐา" แย้มค่าไฟงวดใหม่ ม.ค.-เม.ย.67 อยู่ที่ 4.10 บาท/หน่วย ลดจากเป้าเดิม 4.20 บาท อยู่ระหว่างหารือหน่วยงาน ย้ำรับไม่ได้ที่ กกพ.ประกาศ 4.68 บาท/หน่วย ด้าน "กบง." ตรึงราคา LPG ที่ 423 บาท/ถัง 15 กก.ต่ออีก 3 เดือน สิ้นสุด 31 มี.ค.67 เพื่อดูแลค่าครองชีพประชาชน เผยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่จะติดลบเพิ่มราว 2 พันล้านบ. ส่วนตรึงดีเซลต้องลุ้นคลังลดภาษีฯ ต่อ
- ไหนวิกฤต! เลขาธิการสภาพัฒน์เผยหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สิ้นสุดลง เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ ประเมินปี 2567 โต 3.6% "ธนวรรธน์" ชี้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือน พ.ย. ปรับตัวสูงสุดในรอบ 45 เดือน ขณะที่ "พาณิชย์" เปิดตัวเลขเงินเฟ้อ พ.ย. ติดลบ 0.44% ลดลงต่อเนื่อง 2 เดือนติดต่อกัน และต่ำสุดในรอบ 33 เดือน
- 5 บลจ.ใหญ่ ลุยลงสนามเปิดขายกองทุนภาษีตัวใหม่ Thai ESG รวม 13 กองทุน ทั้งแบบมีเงินปันผลและไม่มีเงินปันผล ด้านนายกฯ "เศรษฐา" ย้ำกองทุนดังกล่าวมีประโยชน์ทั้งผู้ระดมทุนและผู้ออมเงินผ่านการเติบโตที่ยั่งยืน ฟากก.ล.ต.คาดว่าจะมีบลจ.ที่เสนอขายกองทุนนี้ 16 บลจ. รวม 25 กองทุน สามารถสร้างเม็ดเงินในการระดมทุนได้กว่า 10,000 ล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- AOT (BK:AOT) (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 76.63 บาท เป็นหุ้นใน SET50 ที่น่าจะเป็นเป้าลงทุนของกองทุนลดหย่อนภาษี TESG เดือนนี้ ซึ่งบริษัทได้รับ SET ESG Rating ปี 66 ระดับ A คาดกำไร Q1/67 จะยังคงแข็งแกร่งจาก High tourism season มีแผนปรับเพิ่ม PSC ตั้งแต่ 1 เม.ย.67 ของ international และ domestic passengers จาก 700 และ 100 บาท เป็น 730 และ 130 บาทจะส่งผลให้ประมาณการกำไรปี 67-68 เพิ่มขึ้น 2.5-4.5%
- INTUCH (เมย์แบงก์) "ซื้อ" เนื่องจากอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 4-5% ในปี 66-68E และยังมีอัพไซด์จากรายได้
เงินปันผลจากการลงทุนในอนาคต แม้เราคาดว่ากำไรหลักทั้ง 100% จะมาจาก ADVANC ในปี 66 แต่ INTUCH ก็กำลังแสวงหาการลงทุนในบริษัทต่างๆ เพื่อเพิ่มแหล่งรายได้จากเงินปันผล ราคาเป้าหมายอิงวิธี SOTP อยู่ที่ 80.7 บาทได้มาจากมูลค่ายุติธรรมของ ADVANC เป็นหลัก โดย INTUCH มี ESG Rating ที่ระดับ AA จึงมีโอกาสที่ได้แรงซื้อจากกองทุน TESG อีกด้วย- MASTER (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 79.50 บาท เข้าลงทุน V Square Clinic ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Filler และ Botox มี 25 สาขาทั่วกรุงเทพ โดยเข้าลงทุน 40% ด้วยมูลค่า 720 ล้านบาท มองบวกดีลนี้ช่วยต่อยอดธุรกิจหัตถการด้านฉีดมากยิ่งขึ้น เบื้องต้นหากอิงสมมติฐานอัตรากำไรของธุรกิจเสริมความงามที 12.5% และอัตราการเติบโตของธุรกิจที่ 9% ต่อปี คาดจะเป็น Upside ต่อประมาณการปีหน้าราว 45 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นส่วนเพิ่ม +7.9% ของคาดกำไรปี 67