โดย Hideyuki Sano
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงและวอลล์สตรีทย่อตัวลงจากระดับสูงสุดในวันนี้ หลังจาก Apple (NASDAQ:AAPL) Inc (O:AAPL) เตือนว่าทางบริษัทอาจไม่สามารถทำตามผลคาดการณ์รายได้ในไตรมาสล่าสุดได้ เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาได้กดดันให้กำลังการผลิตชะลอตัวลงและทำให้อุปสงค์ในจีนลดลง
คำเตือนจากบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในสหรัฐฯ ได้ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนลดลง จากที่เคยเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจของจีนและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกจะช่วยปกป้องเศรษฐกิจโลกจากแรงกดดันในแง่ลบ
สัญญาซื้อขายดัชนี S&P500 (ESc1) ย่อตัวลงไปต่ำสุด 0.3% ในการซื้อขายที่ฝั่งเอเชีย
ดัชนี MSCI ซึ่งรวมหุ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดภายนอกประเทศญี่ปุ่น (MIAPJ0000PUS) ปรับตัวลง 0.65% ส่วนดัชนี Nikkei (N225) ของญี่ปุ่นเองติดลบ 1.0% และดัชนีของจีน (SSEC) ปรับตัวลง 0.2% หลังจากขยับขึ้นมาถึงเก้าวันในรอบสิบวันที่ผ่านมาเนื่องด้วยความคาดหวังต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากจีน
ธนาคารกลางจีนได้ลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อระยะกลางเมื่อวานนี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นการปูทางสำหรับการลดอัตราดอกเบี้ย Loan prime rate ของจีนอีกครั้งในวันพฤหัสบดีนี้
ทว่าความเชื่อมั่นในตลาดกลับสั่นคลอนเมื่อ Apple ออกมาเตือนผู้ลงทุนว่า แม้โรงงานการผลิตของบริษัทในจีนจะกลับมาดำเนินงานตามปกติแล้ว แต่อัตราการผลิตจะยังชะลอตัวลงอย่างมาก ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นถึงผลกระทบทางธุรกิจที่ส่งผลอย่างเป็นวงกว้าง