รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

(REPEAT) ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวกตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ

เผยแพร่ 09/10/2566 12:46
อัพเดท 09/10/2566 12:11
© Reuters.  (REPEAT) ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวกตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ

InfoQuest - ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (6 ต.ค.) โดยปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ แต่ตลาดหุ้นยุโรปยังติดลบในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาดบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยังคงตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงต่อไปอีกนาน

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 444.93 จุด เพิ่มขึ้น 3.62 จุด หรือ +0.82% แต่ลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,060.15 จุด เพิ่มขึ้น 61.90 จุด หรือ +0.88%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,229.77 จุด เพิ่มขึ้น 159.55 จุด หรือ +1.06% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,494.58 จุด เพิ่มขึ้น 43.04 จุด หรือ +0.58%

ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวขึ้น หลังจากร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนในช่วงต้นสัปดาห์นี้ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและยุโรปพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปีโดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งและการคาดการณ์ที่ว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ที่ระดับสูงต่อไปอีกนาน

สหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 336,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 170,000 ตำแหน่ง

หุ้นกลุ่มต่าง ๆ ส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มค้าปลีกซึ่งพุ่งขึ้น 2.3% หลังหุ้นซาแลนโด ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกออนไลน์ของเยอรมนีพุ่งขึ้นมากกว่า 6% ท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของผลประกอบการในไตรมาส 3

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ปรับตัวขึ้นเกือบ 2%

หุ้นเชลล์ พุ่งขึ้นราว 2% ขานรับคาดการณ์ผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2566 ขณะที่โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่าผลประกอบการของบริษัทน้ำมันยุโรปจะยังคงแข็งแกร่งก่อนการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3

หุ้นอวิว่า (Aviva) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทประกันภัยรายใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร พุ่งขึ้น 5.3% หลังจากที่หนังสือพิมพ์ไทมส์ของอังกฤษรายงานเรื่องการเจรจาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่บริษัทจะถูกเทกโอเวอร์โดยผู้ซื้อจากต่างประเทศ

แต่กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มลดลง 1.8% โดยหุ้นเนสท์เล่ร่วงกว่า 2% ขณะที่หุ้นดานอน และยูนิลีเวอร์ ปรับตัวลง 1.2% และ 2.6% ตามลำดับ

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย