InfoQuest - SET ปิดวันนี้ที่ 1,507.36 จุด ลดลง 15.23 จุด (-1.00%) มูลค่าการซื้อขาย 42,194.46 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวลงตามภูมิภาค โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,507.36 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,524.97 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 115 หลักทรัพย์ ลดลง 395 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 133 หลักทรัพย์
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามทิศทางของตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค ประเด็นหลักที่กดดันดัชนี คือ ความกังวลภาคอสังหาริมทรัพท์ของจีนหลังจากบริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ (HK:3333) ไม่สามารถออกหุ้นกู้ใหม่ได้ และทางฝั่งสหรัฐที่ต้องติดตามการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณฯ ซึ่งหากยังไม่ได้ข้อสรุปภายในวันที่ 30 ก.ย. อาจมีความเสี่ยงเกิด Government shutdown
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะเป็นภาพของการไซด์เวย์สร้างฐาน โดยนักลงทุนจับตาดูทิศทางการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งจะมีการพิจารณามาตรการต่างๆ โดยเชื่อว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นทั้งมาตรการพักหนี้เกษตร หรือการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ต้องติดตามความคืบหน้าวงเงินงบประมาณต่างๆ ซึ่งอาจจะช่วยผลักดันดัชนีกลับมาได้ โดยหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ผลประโยชน์จากนโยบายรัฐบาล อาทิ กลุ่มค้าปลีก แม้ว่าไตรมาส 3/66 ผลประกอบการอาจจะไม่โดดเด่นมาก แต่หากมองไปในไตรมาส 4/66 หุ้นกลุ่มดังกล่าวยังอยู่ในจุดที่น่าสนใจ อีกทั้งราคาหุ้นยังไม่ตอบสนองต่อมาตรการภาครัฐเท่าไร ส่งผลให้อาจมีแรงเก็งกำไรเข้ามาได้บ้าง
ให้แนวรับ 1,500 จุด และแนวต้าน 1,520 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,170.24 ล้านบาท ปิดที่ 26.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
AOT (BK:AOT) มูลค่าการซื้อขาย 1,595.20 ล้านบาท ปิดที่ 69.50 บาท ลดลง 0.75 บาท
PTT (BK:PTT) มูลค่าการซื้อขาย 1,594.44 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
EA มูลค่าการซื้อขาย 1,558.97 ล้านบาท ปิดที่ 53.00 บาท ลดลง 3.25 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,483.23 ล้านบาท ปิดที่ 103.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง