โดย Gina Lee
Investing.com – ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในเช้าวันพุธที่เอเชีย หลัง สถาบันปิโตรเลียมแห่งสหรัฐอเมริกา (API) แสดงให้เห็นว่าน้ำมันดิบคงคลังและเชื้อเพลิงของสหรัฐฯ ลดลงอย่างไม่คาดคิด สวนทางกับความกังวลเกี่ยวกับอุปทานจากอิหร่านที่มีแนวโน้มจะพุ่งสูงขึ้น
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ขยับขึ้น 0.17% เป็น 90.93 ดอลลาร์เมื่อเวลา 22:00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (3:00 น. GMT) ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้น 0.13% เป็น 89.48 ดอลลาร์
ขณะนี้นักลงทุนกำลังรอข้อมูลการจัดหาน้ำมันดิบของสหรัฐจากสำนักงานข้อมูลพลังงานสหรัฐ(EIA) ซึ่งจะครบกำหนดในช่วงท้ายของวัน
"อุปทานไม่เพียงพอเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้น" ทีน่า เต็ง นักวิเคราะห์จาก CMC Markets กล่าว
ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐเมื่อวันอังคารจาก API แสดงให้เห็นว่าสินค้าคงคลังลดลง 2 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล
ข้อมูลเพิ่มเติมจากสำนักบริหารสารสนเทศพลังงานของสหรัฐอเมริกา (EIA) จะเปิดเผยเวลา 10:30 น. EST (3:00 น. GMT)
แต่ความกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านที่อาจปล่อยน้ำมันออกสู่ตลาดโลกมากขึ้น ยังคงส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตลาด
เบรนท์และน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงราว 2% ในวันอังคารเป็นเซสชั่นที่สองติดต่อกัน เนื่องจากวอชิงตันกลับมาเจรจากับอิหร่านเพื่อรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ ข้อตกลงอาจทำให้สหรัฐฯ ยกเลิกการคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่านและเพิ่มอุปทานไปยังตลาดได้อย่างรวดเร็ว
“ด้วยการเจรจาที่คืบหน้า ราคาน้ำมันน่าจะลดลงในสัปดาห์หน้า แม้จะพุ่งสูงขึ้นอย่างที่เราเห็นในวันนี้” เถิงกล่าว พร้อมเสริมว่ายังมีการแย่งชิงผลกำไรในหมู่นักลงทุนที่ตอนนี้ระมัดระวังเรื่องราคาซึ่งทำสถิติสูงสุดรอบ 7 ปีเมื่อเร็ว ๆ นี้
ราคาน้ำมันใกล้ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอาจดึงการผลิตเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ ได้เช่นกัน EIA คาดว่าผลผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น 770,000 บาร์เรลต่อวันเป็น 11.97 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้
ความกังวลต่อยูเครนคลี่คลายชั่วคราวหลัง เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ชี้ว่า มาตรการต่าง ๆ สามารถลดความรุนแรงลงได้ หลังจากพบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ