โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- ห้าประเด็นที่คุณควรทราบเกี่ยวกับตลาดการเงินในวันพุธที่ 4 มีนาคมมีดังต่อไปนี้
1. ศึกระหว่างนายไบเดนกับนายแซนเดอร์ส
นายโจ ไบเดน ประสบความสำเร็จในการใช้แคมเปญหาเสียงเพื่อพลิกคะแนนเสียงกลับมานำโด่งในการเสนอชื่อแคนดิเดตของพรรคเดโมแครตสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ขณะนี้เหลือการประกาศผลจากรัฐอีกเพียงรัฐเดียวซึ่งก็คือแคลิฟอร์เนีย ทว่านี่เป็นครั้งแรกที่คะแนนเสียงของนายไบเดนพุ่งสูงกว่าคะแนนเสียงของนายแซนเดอร์ส โดยคะแนนเสียงของนายไบเดนนำนายแซนเดอร์สอยู่ที่ 397 เสียงต่อ 356 เสียง หลังจากที่ก่อนหน้านี้แคมเปญหาเสียงของนายไบเดนเริ่มต้นได้อย่างอ่อนแอในรัฐไอโอวาและนิวแฮมป์เชียร์
2. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เตรียมพุ่งสูงขึ้น
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐฯ พลิกกลับมาสู่แดนบวกเมื่อคืนนี้ หลังจากผลของวันอังคารชี้ชะตาหรือ Super Tuesday ได้แสดงให้เห็นว่าโอกาสที่นายแซนเดอร์สจะเป็นประธานาธิบดีนั้นค่อนข้างต่ำ ซึ่งเป็นไปในทิศทางที่วอลล์สตรีทต้องการ
ในเวลา 6:40 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1140 GMT) สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี Dow 30 ปรับขึ้น 575 จุดหรือ 2.2% ส่วน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 2.0% และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี Nasdaq 100 ขยับขึ้น 2.1%
ทั้งนี้การปรับนโยบายทางการเงินให้มีความผ่อนคลายลงทั่วโลกน่าจะช่วยลดความเสี่ยงที่บริษัทต่าง ๆ จะล้มละลายเพราะปัญหาระยะสั้นจากกระแสเงินสดเนื่องมาจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
3. ดำเนินตามกระแสการใช้นโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลาย
ธนาคารกลางแคนาดา คาดว่าจะดำเนินรอยตามเฟดในการลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50 จุดเมื่อถึงการประชุมเพื่อพิจารณาปรับนโยบายทางการเงิน หลังจากธนาคารกลางแคนาดาได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.75% มากว่าปีครึ่งแล้ว
ธนาคารกลางแคนาดาจะประกาศผลพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยในเวลา 10.00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1500 GMT) ก่อนหน้าที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้ ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25 จุดเท่านั้น
นอกจากนี้ความคืบหน้าของเฟดยังกดดันให้ตลาดโลกหันไปจับตาธนาคารกลางยุโรป ซึ่งขณะนี้ธนาคารกลางยุโรปไม่สามารถที่จะปรับนโยบายทางการเงินให้มีความผ่อนคลายได้มากเท่าเฟด โดยตลาดเชื่อว่ามีโอกาสสูงที่ธนาคารกลางยุโรปจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.10 จุดในการประชุมครั้งต่อไปในวันพฤหัสบดีหน้า
4. ผู้บริหารชุดใหม่ของ Nordstrom ล้มเหลวในการสร้างความเชื่อมั่น
หุ้นของ Hewlett Packard Enterprise (NYSE:HPE) และบริษัทค้าปลีก Nordstrom (NYSE:JWN) เตรียมปรับตัวลงหลังจากบริษัทออกมารายงานผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาดหลังเวลาตลาดปิดเมื่อวานนี้
หุ้นของ Nordstrom ทรุดตัวลง 7.2% หลังจากก่อนหน้านี้ดิ่งลงมาถึง 2.9% แล้วในช่วงเวลาการซื้อขาย เนื่องจากบริษัทประกาศผลกำไรต่อหุ้นประจำไตรมาสที่สี่ที่ลดลงจากปีก่อนถึง 3% ทั้งนี้มีแถลงการณ์ของบริษัทที่ระบุว่า Erik Nordstrom จะเป็น CEO ของบริษัทแต่เพียงผู้เดียวส่วนนาย Pete ผู้เป็นพี่ชายจะดำรงตำแหน่งประธานและหัวหน้าแบรนด์ แต่แถลงการณ์ดังกล่าวกลับไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุนแต่อย่างใด
ส่วน HPE ก็ทรุดหนักถึง 5.8% หลังจากดิ่งลงในช่วงเวลาการซื้อขายถึง 2.3% เมื่อรายงานยอดขายจากเซิร์ฟเวอร์ที่ดิ่งลงอย่างฉับพลันในไตรมาสล่าสุด
5. ซาอุฯ หวังลดกำลังการผลิตน้ำมันครั้งใหญ่ในกลุ่ม OPEC+
มีรายงานว่าซาอุฯ เตรียมผลักดันประเทศพันธมิตรต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกกลุ่ม OPEC ให้ลดกำลังการผลิตน้ำมันมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มจากอัตราเดิมที่เคยตกลงกันไว้เพื่อพยายามรักษาเสถียรภาพในตลาดน้ำมันโลก
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบสหรัฐฯ พลิกฟื้นจากระดับต่ำสุดที่ $45 อย่างต่อเนื่องและปรับตัวขึ้น 0.6% ในวันนี้ที่ $47.47 ต่อบาร์เรล ส่วน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ขยับขึ้น 0.7% ที่ $52.22 ต่อบาร์เรล
ในเวลา 10:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1530 GMT) สำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐฯ หรือ EIA จะรายงาน ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ หลังจากก่อนหน้านี้สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (API) ได้รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของ EIA จะสูงขึ้น 2.64 ล้านบาร์เรล