Investing.com - เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในวันพฤหัสบดี ท่ามกลางความหวังใหม่สำหรับการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ และหลังจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งสนับสนุนกรณีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขิงเฟดภายในปลายปีนี้
U.S. dollar index ซึ่งเป็นตัววัดความแข็งแกร่งของดอลลาร์ ต่อหกสกุลเงินหลัก ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.17% มาอยู่ที่ 93.44 ณ. เวลา 03:28 AM ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (07:28 GMT) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม
เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังจากที่รัฐบาลทรัมป์ระบุแผนงาน สำหรับการยกเครื่องรหัสภาษีของสหรัฐอเมริกา ในวันพุธ ที่เสนอมาตรการลดภาษีสำหรับธุรกิจ และบุคคลหลายๆประเภท
การเปลี่ยนแปลงที่ถูกเสนอ มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับการถกเถียงในสภาคองเกรส ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าอาจทำให้เกิดการขาดดุลหลายล้านล้านดอลลาร์ได้
แต่ความคืบหน้าในแผนภาษี พร้อมกับข้อมูลออเดอร์สินค้าคงทนโรงงานที่ฟื้นตัวในเดือนก่อน ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น พร้อมทั้งแรงหนุนจากความคาดหวังใหม่ สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่สามโดยเฟด ภายในปีนี้
อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมีแนวโน้มจะเพิ่มดอลล่าร์ โดยทำให้สกุลเงินสหรัฐฯ น่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับนักลงทุนที่หวังผลตอบแทน
ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินเยน โดย USD/JPY เพิ่มขึ้น 0.17% มาที่ 113.03 ไม่ไกลจากระดับสูงสุดในรอบมากว่าสองเดือนที่ 113.24
เงินยูโรยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงทางการเมือง ในประเทศเยอรมนี ในช่วงหลังจากการเลือกตั้ง โดย EUR/USD ในระดับสุดท้ายที่ 1.1742
นายกรัฐมนตรีเยอรมัน Angela Merkel ต้องเผชิญหน้ากับการเจรจาร่วมรัฐบาล เพื่อที่จะสร้างรัฐบาลที่มีเสถียรภาพเป็นเวลาหลายเดือน ทำให้นักลงทุนกังวลว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองของเยอรมัน อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเยอรมัน และทำให้การรวมกลุ่มในยูโรโซนยากขึ้น
อื่นๆ เงินปอนด์คงที่ขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดย GBP/USD ที่ 1.3382