โดย Detchana.K
Investing.com - บมจ.ไทยออยล์รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังสหภาพยุโรปสามารถบรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งกองทุนวงเงินกว่า 7.5 แสนล้านยูโร เพื่อพื้นฟูเศรษฐกิจของชาติสมาชิกหลังเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ตลาดคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะฟื้นตัว
ตลาดน้ำมันเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น จากความคืบหน้าเกี่ยวกับการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยหลายบริษัทเริ่มมีความคืบหน้าในการทดลองแล้ว นำโดยบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ที่สามารถพัฒนาวัคซีนซึ่งช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายของอาสาสมัครจำนวนกว่า 1,077 คนได้สำเร็จ
ภายหลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ก.ค. 63 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความกังวลต่ออุปสงค์ที่อาจชะลอตัวลง หลังหลายประเทศเริ่มพิจารณากลับมาปิดเมืองอีกครั้ง นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงกดดันจากอุปทานน้ำมันเบนซินในภูมิภาคที่อยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะจากจีน น้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปทานในภูมิภาคที่ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะไต้หวัน ที่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ที่คาดว่าจะปรับลดลงในช่วงฤดูฝน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ลดลง 32 เซนต์ อยู่ที่ 44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ลดลง 33 เซนต์ อยู่ที่ 41.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล