โดย Ambar Warrick
Investing.com – สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยในวันจันทร์ เนื่องจากมีสันญาณเตือนล่วงหน้าก่อนการเปิดเผยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ขณะที่ค่าเงินยูโรขยับขึ้น แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงอีก
เงิน เยน เพิ่มขึ้น 0.1% ในขณะที่เงิน วอนเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.2% แรงกดดันต่อสกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ผ่อนคลายลงหลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอีกจากระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ดัชนีดอลลาร์ ลดลง 0.4% เป็น 108.61 ขณะที่ ดัชนีดอลลาร์ ร่วงลงมาอยู่ในช่วงเดียวกัน เงินดอลลาร์ถูกขายออกเนื่องจากนักลงทุนคลายการเดิมพันระยะยาวหลังจากได้กำไรที่แข็งแกร่งมาแล้วหนึ่งเดือน
ความแข็งแกร่งในเงิน ยูโร ที่เพิ่มขึ้น 0.5% ในวันจันทร์ ก็ส่งผลกระทบต่อดอลลาร์เช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนวางเดิมพันเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจาก ธนาคารกลางยุโรป ในปีนี้ ธนาคารกลางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 75 จุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากต้องต่อสู้กับระดับเงินเฟ้อไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้
จุดเน้นหลักในสัปดาห์นี้คือข้อมูล ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จากสหรัฐฯ ที่จะครบกำหนดรายงานในวันอังคารนี้ ซึ่งส่วนใหญ่คาดว่าจะเป็นตัวกำหนดเส้นทางของเงินดอลลาร์ในระยะสั้น
ตลาดคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะถอยห่างจากระดับสูงสุดที่แตะเมื่อต้นปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง แต่ยังคงคาดว่าการอ่านค่าจะสูงกว่าเป้าหมายประจำปีของเฟดที่ 2%
ธนาคารกลางได้ย้ำว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะแสดงสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะบรรลุเป้าหมาย ตลาดกำลังกำหนดราคาว่ามีโอกาสมากกว่า 80% ที่เฟดจะปรับขึ้น 75 จุดพื้นฐานในสัปดาห์หน้า
ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าและช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เอเชียและสหรัฐฯ ที่แคบลง ทำให้สกุลเงินในภูมิภาคส่วนใหญ่ลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในปีนี้
เงินเยนของญี่ปุ่นได้รับผลกระทบมากที่สุดโดยลดลงสู่ระดับที่เคยเห็นล่าสุดในช่วงวิกฤตการเงินในเอเชียในปี 1998 ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงดึงดันที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับต่ำก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลง
ความอ่อนแอของค่าเงินเยนทำให้เกิดการเรียกร้องจากเจ้าหน้าที่ของรัฐให้เข้าไปแทรกแซงในตลาดเงิน แม้ว่าจะยังไม่มีการกำหนดมาตรการดังกล่าว
ความเชื่อมั่นในตลาดเอเชียนั้นลดลงเนื่องจากสำนักข่าวรอยเตอร์สได้รายงานว่า สหรัฐฯ ตั้งใจจะจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีไปยังจีนมากขึ้น การเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจทำให้ปักกิ่งถอนตัวออกจากตลาด ซึ่งอาจทำให้เกิดสงครามการค้าระหว่างสองประเทศ
ค่าเงินบาทอ่อนค่าที่สุดในกลุ่มสกุลเงินเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยลดลง 0.3%