โดย Peter Nurse
Investing.com – ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นในช่วงเช้าของวันอังคารที่ตลาดซื้อขายของยุโรปโดยที่เงินยูโรยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากปัจจัยความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้นในยูเครนที่กระตุ้นความต้องการสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
เวลา 02:55 น. ET (0755 GMT) ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งติดตามค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับกลุ่มของสกุลเงินอื่นอีก 6 สกุล ซื้อขายสูงขึ้น 0.3% ที่ 97.660
กองกำลังรัสเซียได้ทิ้งระเบิดในเมืองต่าง ๆ ของยูเครนเพิ่ม โดยเตือนผู้อยู่อาศัยในกรุงเคียฟ ให้ออกจากที่อยู่ของตัวเอง ขณะที่ขบวนรถหุ้มเกราะยาวหลายไมล์เข้าใกล้เมืองหลวง
สิ่งนี้ส่งผลให้นักลงทุนแสวงหาเงินดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินสำรองของโลก เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยหลัก และเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง
“พาดหัวข่าวล่าสุดเผยว่ารัสเซียกำลังยกระดับการเตรียมการด้านนิวเคลียร์ และชาติตะวันตกกำลังกำหนดมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดมากขึ้น รวมถึงการแช่แข็งทรัพย์สินและการตัดหน่วยงานของรัสเซียบางแห่งออกจากเครือข่ายการสื่อสารระหว่างธนาคารของ SWIFT ชี้ให้เห็นว่าความเสี่ยงอาจคงอยู่ตลอดทั้งสัปดาห์และอาจยืดเยื้อออกไปอีก ” แมทธิว เวลเลอร์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดระดับโลกของ GAIN Capital กล่าว
รูเบิลยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องแม้ว่า ธนาคารกลางรัสเซีย จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยหลักเป็นสองเท่าที่ 20% ขณะที่นักลงทุนชั่งน้ำหนักถึงผลกระทบจากการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่รุนแรงต่อรัสเซีย
แต่กลายเป็นว่าเงินสกุลยูโรได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างรุนแรงและราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการเติบโตของยุโรป
เวลา 2:55 น. ET (0755 GMT) รูเบิล ซื้อขายเพิ่มขึ้น 2.1% ที่ 103.3218 ขณะที่ ยูโร ลดลง 0.3% มาที่ 1.1098 ซึ่งเหนือกว่าจุดต่ำสุดในรอบกว่า 21 เดือนด้วยระดับแนวรับ 1.1100 ที่ง่อนแง่น
“แม้ว่าจะไม่มีเหตุผลมากมายที่จะเข้าซื้อเงินยูโรในขณะนี้ แต่จากมุมมองทางเทคนิค ดูเหมือนว่าศักยภาพในสกุลเงินยูโรจะเพิ่มขึ้นได้ในเวลาอันสั้น” เจฟฟรีย์ ฮัลลีย์ นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ OANDA ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าว “การเจรจาครั้งใหม่ระหว่างยูเครน-รัสเซีย หรือความคืบหน้าของข้อมูลจากจีนจะชดเชยปัจจัยความเสี่ยงจากผลของการเจรจาการหยุดยิงที่อาจจะเกิดขึ้นนั้นก็เพียงพอที่จะจุดประกายตลาดขาขึ้นถึง 200 จุด”
นักลงทุนจะจับตาดูการเปิดเผยข้อมูล CPI ของยูโรโซนในช่วงหลังของเซสชั่น โดยธนาคารกลางยุโรปจะต้องสร้างสมดุลระหว่างอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นและศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคตัวเองในระหว่างสถานการณ์การรุกรานยูเครนของรัสเซีย
ค่าเงินปอนด์ ลดลง 0.2% มาที่ 1.3292 ค่าเงินเยน เพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 115.16 เยนต่อดอลลาร์ ในขณะสกุลเงินอ่อนไหวต่อความเสี่ยงอย่าง ดอลลาร์ออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 0.1% เป็น 0.7252 ได้รับแรงหนุนจากข้อมูลที่แสดงว่าเศรษฐกิจของออสเตรเลียทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่งในไตรมาสที่สี่
ในเซสชั่นถัดมา เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด จะขึ้นกล่าวในประเด็นทางเศรษฐกิจต่อหน้าคณะกรรมาธิการสภาบริการทางการเงิน โดยนักลงทุนต้องการทราบความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความขัดแย้งในยูเครน ธนาคารกลางคาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายเดือนนี้เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น
สุดท้าย ดอลลาร์แคนาดา ลดลง 0.1% มาที่ 1.2734 โดย ธนาคารแห่งแคนาดา คาดว่าจะเริ่มปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในช่วงหลังของเซสชั่น โดยมีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบสามทศวรรษ
ค่าเงินบาท อ่อนค่าเพิ่มเติมเล็กน้อยในช่วงบ่ายมาอยู่ที่ 32.7 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ