Investing.com - สัปดาห์นี้ตลาดพากันจับตาการประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป เพราะผู้ลงทุนอยากทราบว่านายมาริโอ ดรากี จะดำเนินการขั้นต่อไปเช่นไรเพื่อหนุนเศรษฐกิจฝั่งยูโรโซน
และในสัปดาห์นี้ก็จะมีการรายงานข้อมูลภาพรวมทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ ทั้งดัชนีภาคการผลิตจากญี่ปุ่น ยูโรโซน และสหรัฐฯ ที่มีกำหนดการรายงานในวันพุธ อีกทั้งจะมีการเผยตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เบื้องต้นประจำไตรมาสที่สองอีกด้วย
ทางด้านนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสหราชอาณาจักรก็น่าจะขึ้นรับตำแหน่งก่อนสิ้นสุดสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความกังวลต่อการเกิด Brexit แบบไม่มีข้อตกลงที่ยังคงก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเนื่องด้วยความหวาดหวั่นว่าการลดอัตราดอกเบี้ยถึง 50 จุดในเดือนกรกฎาคมนี้อาจไม่เป็นความจริงอีกต่อไป ภายหลังประธานเฟดประจำนครนิวยอร์กกลับคำของประธานเฟดที่เดิมเคยมีท่าทีเอนเอียงไปทางนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งได้อ่อนค่าลงถึงระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ที่ 96.648 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ล่าสุดปรับขึ้น 0.38% เท่ากับ 97.81
ยูโร อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เด้งกลับขึ้นมาเมื่อวันศุกร์ จากที่ผู้ลงทุนเริ่มเพิ่มเดิมพันให้กับการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรปมากขึ้น
ทว่านักวิเคราะห์หลายท่านกลับไม่คิดเช่นนั้น มาร์วิน โลห์ นักวางกลยุทธ์อาวุโสระดับมหาภาคจาก State Street Global Markets ได้ให้ความเห็นไว้ว่า เขาเชื่อว่าธนาคารกลางยุโรปจะรอให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยเสียก่อนจึงจะลดอัตราดอกเบี้ยตาม โดยเขาได้ตั้งข้อสังเกตอีกว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจยังไม่กระทำการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ครั้งใหญ่ จนกว่าประธานธนาคารกลางยุโรปคนต่อไป นางคริสทีน ลาการ์ด จะรับมอบตำแหน่งอย่างเสร็จสมบูรณ์เสียก่อน
ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.47% อยู่ที่ระดับ 1.122
ทางด้าน ปอนด์อังกฤษ ก็วนเวียนอยู่แถว ๆ ระดับ 1.25 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จากวันก่อนหน้านี้ที่ค่าเงินพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในระยะเวลานานกว่าสองเดือน แม้ว่าผู้ลงทุนยังคงมุ่งความสนใจไปยังความเสี่ยงต่อการเกิด Brexit แบบไม่มีข้อตกลงที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ตาม
ช่วงต้นสัปดาห์ก่อนผู้ลงทุนได้เทขายเงินปอนด์กันยกใหญ่ ทำให้เงินปอนด์ดิ่งลงไปสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 27 เดือนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และระดับต่ำสุดในรอบหกเดือนเมื่อเทียบกับเงินยูโร ก่อนที่จะพลิกฟื้นขึ้นมาได้เล็กน้อยเมื่อวันพฤหัสบดี
ทั้งนี้ Investing.com ได้รวบรวมเหตุการณ์สำคัญในสัปดาห์นี้ที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดมาดังต่อไปนี้
วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม
ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ (มิ.ย.)
วันพุธที่ 24 กรกฎาคม
ดัชนี PMI ภาคการผลิตของญี่ปุ่น (ก.ค.)
ดัชนี PMI ภาคการผลิตของฝั่งยูโรโซน (ก.ค.)
ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ (ก.ค.)
ดัชนี PMI ภาคกิจการบริการของสหรัฐฯ (ก.ค.)
ยอดขายบ้านมือหนึ่งสหรัฐฯ (มิ.ย.)
วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม
ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ (มิ.ย.)
ดุลการค้าสหรัฐฯ (มิ.ย.)
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ
ดัชนีบรรยากาศทางธุรกิจของเยอรมนีจาก Ifo
การประชุมเพื่อพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป
วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม
ตัวเลข GDP ล่วงหน้าของสหรัฐฯ
--เนื้อหาข่าวได้รับการสนับสนุนจากสำนักข่าวรอยเตอร์