InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.44/47 บาท/ดอลลาร์ อ่อน ค่าจากเปิดตลาด เมื่อเช้าที่ระดับ 33.32/33 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.30 - 33.50 บาท/ ดอลลาร์ ทั้งนี้ ระหว่างวันยังไร้ปัจจัยใหม่ ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อของไทยที่ประกาศออกมานั้น ก็ไม่ได้มีนัยสำคัญต่อ ตลาดเงินบาท ขณะที่ค่า เงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวทรงตัวเช่นเดียวกับเงินบาท นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.30 - 33.70 บาท/ดอลลาร์ * ปัจจัยสำคัญ - เงินเยน อยู่ที่ระดับ 148.00/50 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 148.71/73 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0920/0980 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0974/0976 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ 1,452.20 จุด เพิ่มขึ้น 7.95 จุด (+0.55%) มูลค่าซื้อขาย 49,414.82 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,131.98 ล้านบาท - สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(CPI) เดือน ก.ย.67 อยู่ที่ 108.68 หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไป สูงขึ้น 0.61% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ตลาดคาดการณไว้ที่ 0.74-0.80% ทั้ง นี้ การที่อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นดังกล่าว มีปัจจัยสำคัญจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันดีเซล รวมทั้งผักสดบางชนิดที่ได้รับความเสียหายจาก สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เพาะปลูก ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เฉลี่ย 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.) อยู่ที่ 0.20% - นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมโต๊ะกลมระหว่างรัฐบาลไทยกับคณะผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชั้นนำระดับโลก 6 บริษัท เพื่อสนับ สนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย (Round Table Meeting) โดยที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปี 68 รัฐบาล ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้น 7.5% และตั้งเป้าหมายรวมไว้ที่ 3.4 ล้านล้านบาท พร้อมคาดการณ์ว่าจะมีนัก ท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 40 ล้านคน และเกิดการเดินทางภายในประเทศมากกว่า 205 ล้านครั้งทั่วประเทศไทย - ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ผลสำรวจในเดือนก.ย. 67 พบว่า ดัชนี ICI ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ในเกณฑ์ "ร้อนแรงอย่างมาก" ที่ระดับ 175.64 ซึ่งอยู่ ในระดับสูงสุดนับแต่ทำการสำรวจ นักลงทุนมองว่าการไหลเข้าของเงินทุน เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในขณะที่ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลง ทุนมากที่สุด ได้แก่ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ รองลงมาคือความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองในประเทศ และความ ผันผวนของค่าเงินบาท - นายกสมาคมค้าทองคำ เผยสถานการณ์ราคาทอง (96.5%) ขายปลีกในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ ผ่านมา เนื่องจากเงินบาทปรับตัวอ่อนค่า โดยเดือนหน้าสถานการณ์ราคาทองในประเทศมีโอกาสที่จะปรับตัวทำสถิติใหม่สูงสุดเป็น ประวัติการณ์ หลังตลาดคาดกาณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีมติปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก อาจส่งผลให้ราคาทองในตลาดโลก ทะลุแนวต้าน 2,700 ดอลลาร์/ออนซ์ - โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) ปรับลดคาดการณ์ความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในอีก 12 เดือนข้างหน้าลง 5% เหลือเพียง 15% หลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานฉบับล่าสุดออกมาดีกว่าที่คาดไว้ กระทรวงแรงงาน สหรัฐฯ เปิดเผยผ่านรายงานในวันศุกร์ (4 ต.ค.) ว่า การจ้างงานในสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 6 เดือนในเดือนก.ย. ขณะที่อัตรา การว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.1% - รมช.คลัง ของญี่ปุ่น ออกโรงเตือนในวันนี้ เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวเพื่อเก็งกำไรในตลาดปริวรรตเงินตรา หลังจากค่าเงิน เยนอ่อนตัวลงต่ำกว่า 149 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ - คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) จะจัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในวันพรุ่งนี้ (8 ต.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับ ชุดนโยบายที่มีเป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่นักลงทุนต่างคาดหวังว่ารัฐบาลจีนภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะออก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม