InfoQuest - นักบริหารเงิน จากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 36.68/69 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้า ที่เปิดตลาดที่ระดับ 36.79/81 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 36.61-36.81 บาท/ดอลลาร์ วันนี้เงินบาทยังไร้ปัจจัยใหม่ ส่วนที่มีข่าวว่าญี่ปุ่นพร้อมแทรกแซงตลาด หลังเงินเยนอ่อนค่าต่อเนื่องนั้น ไม่ได้ส่งผลต่อเงินบาท และสกุลเงินอื่น ๆ ในภูมิภาค เนื่องจากตลาดมีการรับข่าวมาก่อนหน้านี้ไปหลายครั้งแล้ว นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.60- 36.80 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ - เงินเยนอยู่ที่ระดับ 159.66/71 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 159.74/75 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0724/0728 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0690/0691 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,316.73 จุด เพิ่มขึ้น 10.32 จุด (+0.79%) มูลค่าซื้อขาย 38,421.42 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 913.68 ล้านบาท - นายกรัฐมนตรี สั่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศ (ททท.) เตรียมแผนการท่องเที่ยวในช่วง Q2-Q3/67 ที่เป็นช่วง low season ของไทย ซึ่งได้ขอให้ ททท.เตรียม package สำหรับแต่ละประเทศที่มีศักยภาพเพื่อจะทำแผนการท่องเที่ยวราย segment ให้ ตอบโจทย์ของแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวจากกลุ่มตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดิอาระเบีย หรือประเทศอื่น ๆ เช่น รัสเซีย คาซัคสถาน อินเดีย ที่มีความต้องการมาท่องเที่ยวในประเทศไทยสูงและมีความชอบเฉพาะที่แตกต่าง - รมช.คลัง กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า กระทรวงการคลังจะเลือกดำเนินการกองทุนรวมส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืน ของประเทศไทย (Thai ESG) แทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ว่า หากพิจารณาในรายละเอียดแล้ว LTF และ Thai ESG มีคอน เซปต์เดียวกัน แต่ Thai ESG เน้นไปที่ธุรกิจกลุ่ม ESG เป็นหลัก เป็นเรื่องที่ได้ประโยชน์และตรงกับแนวนโยบายของรัฐบาลมากกว่า เพราะตอนนี้ต้องยอมรับว่าโลกให้ความสำคัญกับเรื่องกรีนกันหมดแล้ว ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ยังอยากให้รอดูไปก่อน - อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค. 67) มีการอนุญาต ให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 จำนวน 317 ราย เม็ดเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 71,702 ล้านบาท มีการจ้างงานคนไทย 1,212 คน - Krungthai COMPASS ประเมินว่า การส่งออกของไทยในระยะข้างหน้า ยังมีความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีนที่กลับมารุนแรงขึ้น โดยการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจีนที่จะเริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ส.ค. 67 ทำให้มีการเร่งส่งออกสินค้าจีน ไปยังตลาดสหรัฐฯมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีผลกระทบต่อการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ และอาจเป็นปัจจัยกดดันต่อการส่งออกในระยะข้าง หน้า - รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น ยืนยันว่า ญี่ปุ่นพร้อมที่จะเข้าแทรกแซงตลาดทุกเวลา หากพิจารณาแล้วเห็น ว่าจำเป็น หลังจากเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง - ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานสรุปความคิดเห็น (Summary of Opinions) ของกรรมการ BOJ ในวันนี้ โดยระบุว่า ในการประชุมนโยบายการเงินเดือนมิ.ย. นั้น กรรมการ BOJ ได้หารือกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นโยบาย โดยกรรมการรายหนึ่งเรียกร้องให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยไม่ต้องรอเวลา เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อจะพุ่งสูงกว่าที่ คาดการณ์ไว้ - กระทรวงการคลังจีน เปิดเผยว่า รายได้ด้านการคลังของจีนลดลง 2.8% ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 67 เมื่อเทียบราย ปี หลังปรับตัวลดลง 2.7% ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ - ตลาดคริปโทเคอร์เรนซี เผชิญกับแรงเทขายอย่างต่อเนื่อง หลังจากราคาบิตคอยท์ทำผลงานรายสัปดาห์ย่ำแย่ที่สุดในปี 67 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอุปสงค์ Bitcoin ETF อ่อนแรงลง และความไม่แน่นอนของนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) - สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนพ.ค.ในวันศุกร์นี้ (28 มิ.ย.) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนี PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ จะชะลอตัวลงแตะระดับ 2.6% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี