InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 36.35 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 36.17 บาท/ดอลลาร์ วันนี้เงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าตามสกุลเงินในภูมิภาค ซึ่งแม้ยอดส่งออกเดือนส.ค.ของไทย จะพลิกกลับมาเป็นบวกในรอบ 11 เดือน และกลับมาเกินดุลการค้าได้ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อค่าเงินบาทเท่าใดนัก ช่วงนี้ตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่ "บาทวันนี้อ่อนค่าตามภูมิภาค ไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ แม้เดือนส.ค. ดุลการค้าจะดีกว่าที่คาด แต่ก็มีผลจำกัดต่อค่าเงินบาท" นัก บริหารเงินระบุ คืนนี้ ฝั่งสหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลราคาบ้าน และยอดขายบ้านใหม่ รวมทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ขณะที่วันพรุ่งนี้ ต้อง ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งยังมีลุ้น 50/50 ว่า กนง.จะคงดอกเบี้ย หรืออาจขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.15 - 36.45 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 148.83 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 148.92 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0598 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0586 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,494.02 จุด ลดลง 13.34 จุด (-0.88%) มูลค่าซื้อขาย 55,609.45 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 834.51 ลบ.(SET+MAI) - กระทรวงพาณิชย์ เผยในเดือนส.ค.66 การส่งออกมีมูลค่า 24,279 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.6% พลิกกลับมาเป็นบวกครั้ง แรกในรอบ 11 เดือน จากผลของกลุ่มสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมที่กลับมาขยายตัวได้ในเดือนี้ ขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 23,919 ล้านดอลลาร์ ลดลง 12.8% ส่งผลให้ในเดือนส.ค.66 ไทยเกินดุลการค้า 360 ล้านดอลลาร์ - ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 66 ลงเหลือ 3.0% จากก่อนหน้าที่ 3.7% แม้ความเชื่อมั่นจะ เพิ่มขึ้นหลังจากประเทศไทยมีการจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จแล้ว แต่เศรษฐกิจไทยยังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยเฉพาะ เศรษฐกิจจีนที่ยังคงเผชิญกับปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์ - ครม.อนุมัติแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ปีงบประมาณ 2567 ประกอบด้วย แผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงินรวม 1.94 แสนล้าน บาท, แผนการบริหารหนี้เดิม วงเงินรวม 1.62 ล้านล้านบาท และแผนการชำระหนี้ วงเงินรวม 3.9 แสนล้านบาท พร้อมยืนยันประมาณ การหนี้สาธารณะคงค้างต่อ GDP ณ สิ้นปีงบประมาณ 67 จะไม่เกิน 70% ภายใต้กรอบที่คณะกรรมการบริหารนโยบายการเงินการคลังของ รัฐกำหนด - ตลาดรอติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันพรุ่งนี้ รวมทั้งจับตาการทบทวนประมาณการ เศรษฐกิจไทยในปี 2566 ซึ่งล่าสุดได้คาดการณ์ GDP ปีนี้ไว้ที่ 3.6% และมีแนวโน้มที่จะปรับลดลงจากเดิม เนื่องจากการส่งออกของ ไทยในช่วงที่ผ่านมาฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาด - ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกกล่าวว่า เงินเฟ้อที่เคลื่อนไหวสูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ยัง คงเป็นความเสี่ยงที่รุนแรงมากกว่านโยบายคุมเข้มด้านการเงินของเฟด โดยแม้ว่านโยบายของเฟดจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง แต่ก็ เป็นสิ่งจำเป็นในการฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับที่สามารถควบคุมได้ - ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค เชื่อว่า ประเทศทั่วโลกอาจไม่พร้อมที่จะรับมือกับ สถานการณ์เลวร้ายที่สุดในกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 7% ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับภาวะเศรษฐกิจชะงักงันใน เวลาเดียวกับที่เงินเฟ้ออยู่ที่ระดับสูง (Stagflation) - เอสแอนด์พี โกลบอล ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นในยุโรป จะสร้างแรงกดดันต่ออันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและ ธนาคารพาณิชย์ในทวีปยุโรป พร้อมคาดการณ์ว่า การผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้เพื่อการลงทุนในยุโรปจะเพิ่มขึ้นแบบช้า ๆ และแตะ 3.75% ภายใน เดือนมิ.ย.68 จาก 3.4% ในเดือนส.ค.66 - คืนนี้ สหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ได้แก่ ราคาบ้านเดือนก.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก. ย. จาก Conference Board และยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.