โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- ดอลลาร์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์ในการซื้อขายช่วงเช้าตรู่ในยุโรปในวันอังคาร เนื่องจากตลาดทั่วโลกลดระดับความเสี่ยงลงก่อนการประชุมใหญ่ของธนาคารกลางใหญ่ ๆ ในอีกสองสามวันข้างหน้า
ในเวลา 03:00 น. ET (08:00 GMT) ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งติดตามค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับกลุ่มสกุลเงินเศรษฐกิจขั้นสูงเพิ่มขึ้นที่ 102.06 ซึ่งก่อนหน้านี้แตะระดับสูงสุดที่ 102.19
ตลาดเริ่มต้นปีได้อย่างสดใส กดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมองผ่านอัตราเงินเฟ้อที่สูงในปัจจุบันทั่วโลกแล้วเน้นไปที่แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้ อย่างไรก็ตาม แรงกระตุ้นดังกล่าวหมดลงใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลยุโรปที่อ่อนแอ นั้นได้ท้าทายการควบคุมไม่ให้เกิดภาวะถดถอยและการพลิกกลับของวงจรนโยบายการเงินก่อนกำหนด
ข้อมูล ดัชนียอดค้าปลีกของเยอรมนี สำหรับเดือนธันวาคมซึ่งเผยแพร่ก่อนหน้านี้ อ่อนแอกว่าที่คาดไว้มาก โดยลดลง 5.3% ในเดือนนี้ในแง่จริง และอธิบายได้ว่าทำไม GDP ในเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปลดลง 0.2% ในไตรมาสสุดท้ายของปี การใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวฝรั่งเศส ลดลง 1.3% ในเดือนเดียวกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแรงกดดันต่อผู้บริโภคในยุโรป แม้ว่าโดยรวมแล้ว GDP ของฝรั่งเศสจะเพิ่มขึ้น 0.1% จาก ไตรมาส
อย่างไรก็ตามค่าเงินยูโร ส่วนใหญ่ไม่เคลื่อนไหว โดยลดลงน้อยกว่า 0.1% เป็น 1.0840 ดอลลาร์
มีการเผยแพร่ข้อมูล CPI ของ ยูโรโซน สำหรับเดือนธันวาคมในวันพุธ แต่ Claus Vistesen จาก Pantheon Macroeconomics เตือนว่าตัวเลขดังกล่าว "อาจเกินความเป็นจริง" เนื่องจากเยอรมนีได้ชะลอการเปิดเผยตัวเลขของตนเอง เนื่องจากปัญหาทางเทคนิค ราคาดัชนีผู้บริโภคของ ฝรั่งเศส เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย ซึ่งช่วยบรรเทาแรงกดดันได้บ้างหลังจากข้อมูลเงินเฟ้อของ สเปน และ เบลเยี่ยม ที่ได้เปยแพร่ในวันจันทร์ทำให้เกิดความกลัวการพลิกกลับของนโญบายการเงินทั่วยูโรโซน
สกุลเงินอื่น ๆ ค่าเงิน ปอนด์ ลดลงหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศเตือนว่าสหราชอาณาจักรจะเป็นประเทศเดียวในกลุ่ม G7 ที่หดตัวในปีนี้ ซึ่งข้อมูลการให้กู้ยืมของสหราชอาณาจักรมีกำหนดชำระจากธนาคารแห่งประเทศอังกฤษเวลา 04:30 ET
การอัปเดตของ IMF สำหรับฤดูหนาวเป็นไปในเชิงบวก เพิ่มการคาดการณ์การเติบโตของกองทุนเป็นครั้งแรกในรอบปี ซึ่งสะท้อนถึงการกลับมาเปิดทำการของเศรษฐกิจจีน
การเปิดประเทศอีกครั้งของจีนช่วยหนุนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อแบบผสมของจีน พุ่งกลับเข้าสู่แดนการเติบโต โดยแตะระดับสูงสุดในรอบเจ็ดเดือนที่ 52.9 ทั้งดัชนีย่อย ดัชนี PMI ภาคการผลิต และ ดัชนี PMI ภาคบริการ กลับเพิ่มขึ้นเหนือเกณฑ์หลัก 50 ซึ่งโดยทั่วไปบ่งชี้ถึงการเติบโต
ค่าเงินหยวนในต่างประเทศ ทรงตัวที่ 6.7581 ต่อดอลลาร์