รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

5 เหตุการณ์สำคัญ ปฏิทินเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ (16-20 ก.ย.)

เผยแพร่ 15/09/2562 17:12
อัพเดท 16/09/2562 09:37
© Reuters.

Investing.com - ห้าประเด็นหลักที่คุณควรทราบก่อนเริ่มต้นสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้

  1. ราคาน้ำมันเตรียมพุ่งขึ้นหลังเกิดเหตุวินาศกรรมในซาอุดิอาระเบีย

เหตุวินาศกรรมโรงกลั่นน้ำมันหลักของซาอุดิอาระเบียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ถือเป็นบททดสอบสำคัญว่าตลาดน้ำมันโลกจะสามารถรับมือกับวิกฤตการณ์ด้านอุปทานน้ำมันได้หรือไม่ โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ได้ทำให้อุปทานน้ำมันโลกลดลงชั่วคราวมากกว่า 5% จากประเทศผู้ผลิต น้ำมันดิบ รายใหญ่ที่สุดของโลก

อ้างอิงจากแถลงการณ์ของ Aramco ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตน้ำมันในประเทศซาอุฯ เผยว่า เหตุวินาศกรรมครั้งนี้จะทำให้กำลังการผลิตน้ำมันของซาอุฯ ลดลงไปราว 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) มากกว่าครึ่งหนึ่งของกำลังการผลิตน้ำมันทั้งหมดในซาอุฯ เลยทีเดียว

ราคาน้ำมันดิบอาจพุ่งขึ้นหลายดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจากกำลังการผลิตที่หายไปเป็นระยะเวลานานอาจทำให้สหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ นำน้ำมันดิบที่ได้เก็บไว้ในแหล่งกักเก็บน้ำมันเชิงกลยุทธ์ออกมาปล่อยสู่ตลาดเพื่อหนุนอุปทานในตลาดโลก

2. เตรียมรอเฟดลดอัตราดอกเบี้ย

ตลาดส่วนมากคาดว่าเฟดจะต้องลด อัตราดอกเบี้ย อีกครั้งเมื่อสื้นสุดการประชุมนโยบายทางการเงินเป็นระยะเวลาสองวันในวันพุธนี้ เพื่อลบล้างความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึง Brexit และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอีกด้วย

อ้างอิงจากข้อมูลของ Investing.com ผู้ลงทุนเชื่อว่ามีโอกาสถึง 78.5% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยหนึ่งส่วนสี่จุด จากเมื่อเดือนกรกฎาคมที่เฟดได้ลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ

นักวิเคราะห์จาก ING ได้ให้ความเห็นไว้ว่า “เราเชื่อว่าเฟดจะยอมลดอัตราดอกเบี้ยอีก 25 จุด เพื่อป้องกันแรงกดดันจากพิษทางเศรษฐกิจ" และ "นอกจากนี้ การลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะช่วยลดแรงกดดันขาขึ้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉพาะหลังจากที่ ECB ได้ทำการปรับนโยบายให้มีความผ่อนคลายลงแล้ว"

3. พฤหัสบดีนี้เป็นวันสำคัญของธนาคารกลางทั่วโลก

วันพฤหัสบดีนี้จะมีการประชุมนโยบายทางการเงินทั้งในญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากการรายงานผลการประชุมของเฟด และการประกาศใช้มาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรปเมื่อสัปดาห์ก่อน

คาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะคง อัตราดอกเบี้ย ไว้ดังเดิม นอกเสียจากว่าเฟดจะตัดสินใจพลิกตลาดและทำให้ ค่าเงินเยน พุ่งทะยานขึ้น

ส่วนสวิตเซอร์แลนด์ที่มี อัตราดอกเบี้ย อยู่ที่ -0.75% ยังไม่ได้แสดงจุดยืนว่าจะดำเนินรอยตามนโยบายแบบผ่อนคลายของ ECB หรือไม่ แต่การประชุมน่าจะให้ความสำคัญกับค่าเงินฟรังก์ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสองปีเมื่อเทียบกับ เงินยูโร

คาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษ จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ แต่ตลาดจะรอจับตาแถลงการณ์หลังการประชุมเพื่อรอดูประเด็นที่น่ากังวลใจทางเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบจาก Brexit

4. สถานการณ์ทางการค้า

คณะรัฐบาลจากสหรัฐฯ และจีนจะพบปะกันในสัปดาห์นี้ ล่วงหน้าก่อนกำหนดการเจรจากันระหว่างผู้นำการเจรจาทางการค้าในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้

สัปดาห์ที่แล้วจีนได้ละเว้นการเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าทางการเกษตรบางประเภทจากสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้เลื่อนการขึ้นภาษีศุลกากรสินค้าจีนบางประเภทไปอีกสองสัปดาห์ด้วยเช่นกัน

ข้อมูลทางเศรษฐกิจของจีนที่ประกาศออกมาในวันนี้ อันได้แก่ การผลิตภาคอุตสาหกรรม, ยอดค้าปลีก และ การลงทุนในสินทรัพย์คงที่ จะช่วยทำให้ตลาดทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะทางเศรษฐกิจของจีนท่ามกลางสงครามทางการค้าที่ยืดเยื้อ

5. ข้อมูลทางเศรษฐกิจ และการรายงานผลประกอบการ

ปฏิทินเศรษฐกิจสัปดาห์นี้จะแสดงให้เห็นถึงสภาพทางเศรษฐกิจภาคอสังหาฯ ของสหรัฐฯ ผ่านตัวเลขต่าง ๆ เช่น ยอดบ้านที่กำลังก่อสร้าง และ ยอดขายบ้านมือสอง ส่วนบริษัทผู้ให้บริการการขนส่งยักษ์ใหญ่อย่าง FedEx (NYSE:FDX) ก็มีกำหนดการรายงาน ผลประกอบการ ในวันพรุ่งนี้

ทางฝั่งยูโรโซนก็จะมีการรายงานดัชนี ZEW ของเยอรมนีในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะทำให้ตลาดเห็นภาพมากขึ้นว่าเศรษฐกิจเยอรมนีกำลังมุ่งหน้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่ หลังจากเศรษฐกิจแสดงสัญญาณการหดตัวเล็กน้อยในไตรมาสที่สอง

ส่วนสหราชอาณาจักรจะเตรียมรายงาน ดัชนี CPI และแคนาดาก็มีกำหนดการรายงาน ดัชนี CPI กับ ยอดค้าปลีก

-- เนื้อหาข่าวได้รับการสนับสนุนจากสำนักข่าวรอยเตอร์

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย