โดย Noreen Burke
Investing.com – ห้าประเด็นหลักที่คุณควรทราบก่อนเริ่มต้นสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้
1. FED ลดอัตราดอกเบี้ย
ธนาคารกลางสหรัฐหรือ FED ได้ประกาศลดดอกเบี้ยฉุกเฉินลงอีกเหลือระหว่าง 0% - 0.25% และเปิดตัวมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ถือเป็นครั้งที่สามของเดือนนี้แล้วที่ธนาคารกลางสหรัฐหั่นอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินเพื่อหวังเยียวยาตลาดการเงินและเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเมื่อวันที่ 3 มีนาคมและเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา FED ได้หั่นดอกเบี้ยลง 0.5% เพื่อหวังอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ
ความคืบหน้าครั้งนี้เป็นการแสดงความพยายามของคณะสมาชิก Fed เพื่อรับมือกับการเทขายอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นเวลาหลายเดือน ท่ามกลางความกังวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
- ธนาคารกลางทั่วโลกดำเนินรอยตาม
ธนาคารกลางอื่น ๆ อีก 5 แห่งทั่วโลกได้จัดวงเงินสำหรับธุรกรรม (Swap) เพื่อให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เข้าสู่สถาบันทางการเงินในประเทศได้ง่ายขึ้นท่ามกลางความตึงตัวในตลาดเงินกู้
ธนาคารกลางในอีก 5 ประเทศ ได้แก่ ธนาคารกลางแคนาดา ธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารแห่งชาติสวิส ล้วนออกมาตรการลดอัตราดอกเบี้ยลงขานรับการประกาศลดดอกเบี้ยของ FED และไฟเขียววงเงินกู้ระยะเวลา 3 เดือนพร้อมข้อเสนออัตราดอกเบี้ยในระดับที่ต่ำกว่าปกติอีกด้วย
- ตลาดยังคงมีความผันผวน
ตลาดยังคงเคลื่อนไหวด้วยความกังวลขณะที่นักลงทุนและนักวิเคราะห์รอฟื้นตัวจากสัปดาห์ที่แล้วที่ทำให้ตลาดในสหรัฐฯ ทั้งสามตลาดใหญ่เข้าสู่ภาวะตลาดหมี โดยราคาน้ำมันดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดในระยะเวลาหลายปี และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลกับตลาดสกุลเงินก็มีความผันผวนอย่างมากด้วย
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเมื่อวันศุกร์ หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ ได้พุ่งขึ้นมากกว่า 2,000 รายและจำนวนผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นเป็น 50 ราย ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความล่าช้าด้านการตรวจหาผู้ติดเชื้อ
การลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed อาจช่วยโอบอุ้มตลาดหุ้นเอาไว้ไม่ได้ โดยดัชนี S&P 500 ปิดลบ 2.8% แม้ก่อนหน้านี้ Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยลงแล้วครึ่งจุดก็ตาม
- รัฐมนตรีทางการเงินของสหภาพยุโรปเตรียมประชุม
คณะรัฐมนตรีทางการเงินของฝั่งยุโรปเตรียมประชุมในวันนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนาและมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทว่าการประชุมครั้งนี้จะเป็นการประชุมทางไกลผ่านวิดีโอคอลเนื่องจากฝรั่งเศสและสเปนได้สั่งการปิดประเทศตามรอยอิตาลี
ประเด็นที่น่าสนใจในการประชุมครั้งนี้คือแผนการของคณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อวันศุกร์ที่จะหนุนภาคส่วนทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา และการสั่งการให้ประเทศในสหภาพยุโรปใช้งบประมาณแบบขาดดุลเพื่อเยียวยาธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศ
นอกจากนี้จะมีการประชุมทางวิดีโอของกลุ่มผู้นำประเทศ G7 อีกด้วย ซึ่งคาดว่าประธานาธิบดีฝรั่งเศส นายเอ็มมานูแอล มาครง น่าจะออกมาเรียกร้องให้มีการใช้นโยบายทางเศรษฐกิจที่เป็นไปในทางเดียวกันมากขึ้น
- ข้อมูลทางเศรษฐกิจในวันนี้
วันนี้มีกำหนดการรายงาน ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม , ยอดค้าปลีก และ การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความคงที่ ของจีนในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะแสดงให้ผู้ลงทุนเห็นถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการปิดประเทศเพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
ส่วนข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ประกอบไปด้วย ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และ ยอดค้าปลีก ประจำเดือนที่แล้ว
และทางฝั่งยูโรโซนจะมีการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนจาก ZEW ของเยอรมนี ซึ่งคาดว่าจะดิ่งลงอย่างหนักท่ามกลางพิษเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัสโคโรนาอย่างเป็นวงกว้าง
--เนื้อหาข่าวได้รับการสนับสนุนจากสำนักข่าวรอยเตอร์