Investing.com -- ห้าเรื่องที่คุณควรทราบเกี่ยวกับตลาดการเงินในวันพุธที่ 29 มกราคมมีดังต่อไปนี้
1. จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาพุ่งขึ้นเป็น 132 ราย
ยอดผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาได้เพิ่มขึ้นเป็น 132 รายและจำนวนผู้ติดเชื้อได้ทะยานขึ้นถึง 6,000 รายแล้ว แม้ว่าเชื้อไวรัสจะยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง แต่อัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อที่ต่ำ (โรคซาร์สได้คร่าชีวิตผู้ติดเชื้อถึง 10%) ทำให้ตลาดเริ่มคลายความตึงเครียดลงไปได้บางส่วน
ทว่าผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจเริ่มปรากฎเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดย Toyota ได้ยกเลิกการผลิตภายในประเทศจีน ขณะที่ Starbucks (NASDAQ:SBUX) ประกาศว่าจะปิดทำการ 2,000 สาขาชั่วคราว เช่นเดียวกับ McDonald’s (NYSE:MCD) และ Yum! Brands (NYSE:YUM) เจ้าของแบรนด์ KFC นอกจากนี้ทั้งสหรัฐฯ และญี่ปุ่นได้เริ่มทำการอพยพพลเมืองออกจากประเทศจีนแล้ว ขณะที่สายการบิน British Airways ได้ยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดที่เดินทางไปยังจีนด้วย
2. ผลประกอบการ Apple เป็นที่น่าพอใจอย่างมาก
คาดว่าหุ้นของ Apple (NASDAQ:AAPL) จะทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดครั้งใหม่หลังจากผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทออกมาสูงกว่าผลคาดการณ์มากเนื่องจากยอดขาย iPhones, หูฟังไร้สาย AirPod รวมทั้งรายได้จากแอปสโตร์ที่สูงขึ้น
รายได้ของบริษัทพุ่งขึ้น 9% เท่ากับ 9.182 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จากที่คาดไว้ว่ารายได้จะอยู่ที่ระหว่าง 6.3 - 6.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐซึ่งเป็นช่วงการคาดการณ์ที่กว้างอันเนื่องมาจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา โดยอ้างอิงจากรายงานของบริษัทชี้ว่า Apple มีซัพพลายเออร์หลายรายในเมืองอู่ฮั่นซึ่งได้เลื่อนกำหนดการเปิดโรงงานผลิตออกไปเป็นวันที่ 10 กุมภาพันธ์ นอกจากนี้ยอดขายในจีนยังได้รับแรงกดดันจากการลดชั่วโมงเปิดทำการอีกด้วย
3. มหกรรมการรายงานผลประกอบการ, ตลาดหุ้นเตรียมเปิดตัวในแดนบวก
ในวันนี้จะมีการรายงานผลประกอบการจากบริษัทมากมาย ได้แก่ Facebook, Tesla, General Electric, Mastercard, AT&T, Boeing, McDonald’s, Paypal, Mondelez, ADP , Southern, Anthem, Dow, Marathon, T. Rowe Price, Stanley Black & Decker และ Archer Daniels Midland
ช่วงนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีแววว่าจะปรับตัวขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของ Apple และความหวาดกลัวต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาที่ลดลง
เมื่อเวลา 6:25 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1125 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow 30 ล่วงหน้า ปรับขึ้น 62 จุดหรือ 0.2% {{8839|สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า}} ดีดขึ้น 0.3% และ สัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้า ขยับขึ้น 0.4%
4. คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ดังเดิม
เฟดจะประกาศรายงานการประชุมนโยบายทางการเงินในเวลา 14.00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก ตามมาด้วย การแถลงข่าว ของประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ ในเวลา 14:30 น.
สิ่งที่น่าจับตาในการประชุมครั้งนี้คือทัศนะของนายเพาเวลล์ต่อนโยบายงบดุลของเฟด และกำหนดการเพิกถอนกองทุนธุรกรรมซื้อคืนที่เดิมทีมีจุดประสงค์เพื่อผ่อนคลายตลาดทางการเงินแค่ในช่วงสิ้นปีเท่านั้น
นอกจากนี้ความคิดเห็นของนายเพาเวลล์เกี่ยวกับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจก็เป็นที่น่าจับตาเช่นกัน
5. สถานการณ์ในวุฒิสภาสหรัฐฯ คุกรุ่น
การพิจารณากระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ อาจไม่เป็นไปตามบทสรุปที่หลายฝ่ายคาดไว้
Wall Street Journal รายงานในช่วงครึ่งหลังของเมื่อวานนี้ว่า หัวหน้าวุฒิสภา นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ได้ประกาศว่าขณะนี้ยังมีมติที่ไม่มากพอที่จะคัดค้านการเรียกพยานอย่างเช่นอดีตที่ปรึกษาทางด้านความมั่นคงแห่งชาติ นายจอห์น โบลตัน มาให้ปากคำ
โดยในบันทึกของนายโบลตันมีการระบุอย่างชัดแจ้งว่า ปธน.ทรัมป์ได้ยับยั้งการส่งกองกำลังทหารไปช่วยเหลือยูเครน ซึ่งสภาคองเกรสได้อนุมัติการกระทำดังกล่าวขณะที่รอประกาศเริ่มต้นการสืบสวนคู่แข่งทางการเมืองของปธน.ทรัมป์