โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- ห้าเรื่องที่คุณควรทราบเกี่ยวกับตลาดการเงินในวันศุกร์ที่ 24 มกราคมมีดังต่อไปนี้
1. เศรษฐกิจจีนมีความเสี่ยง แม้การระบาดยังไม่ใช่ภาวะฉุกเฉินระดับโลก
รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการในวันนี้เพิ่มขึ้นเป็น 25 ราย แม้องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังคงชี้ว่าการระบาดครั้งนี้ยังถือเป็นเพียงวิกฤตการณ์ระดับประเทศแต่ยังไม่ถือเป็นระดับโลก โดยรายงานข่าวหลายสำนักชี้ว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และผู้เสียชีวิตที่มีอายุน้อยที่สุดคือ 36 ปี
ขณะนี้ทางการจีนได้ระงับการเดินทางไปยัง 10 มณฑลแล้ว แม้ว่าจะมีการยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อใน 32 มณฑลจากทั้งหมด 34 มณฑลแล้วก็ตาม
นอกจากนี้ได้มีการยกเลิกการจัดงานเฉลิมฉลองวันตรุษจีนในที่สาธารณะและปิดศูนย์กลางทางกิจกรรมต่าง ๆ เช่น โรงภาพยนตร์ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ถือเป็นความเสี่ยงต่ออุปสงค์และการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลสำคัญของจีน โดย Standard & Poor’s คาดการณ์ว่าการระบาดครั้งนี้อาจทำให้เศรษฐกิจจีนหดตัวลงถึง 1.2 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้
2. ดัชนี PMI เยอรมนี, สหราชอาณาจักรออกมาในแง่บวก
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อล่าสุดของ IHS Markit ในฝั่งยูโรโซนประจำเดือนมกราคมยังคงอยู่ที่ 50.9 ขณะที่ดัชนีภาคการผลิตของเยอรมนีกลับหดตัวน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนของปีที่แล้วที่ 45.2
ในทางตรงกันข้าม แนวโน้มที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษกลับลดลง หลังจากดัชนี PMI พลิกฟื้นขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ 49.8 แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างการหดตัวและการขยายตัว
ทั้งค่าเงินปอนด์และยูโรต่างก็อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐฯ พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเจ็ดสัปดาห์
3. ตลาดหุ้นเตรียมเปิดตัวในแดนบวก หลังจากความหวาดกลัวต่อเหตุการณ์การระบาดเริ่มทุเลาลง
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เตรียมปรับตัวขึ้นในเวลาตลาดเปิดวันนี้ หลังจากเมื่อวานนี้ขยับหลายทิศทางก่อนที่จะปิดบวกเนื่องด้วยแรงหนุนจาก Intel (NASDAQ:INTC)
เมื่อเวลา 6:20 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1120 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow ล่วงหน้า ปรับขึ้น 66 จุดหรือ 0.2% ขณะที่สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าปรับตัวขึ้น 0.2% และ สัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้า ขยับขึ้น 0.3%
ตลาดยุโรปเมื่อคืนนี้ก็ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน โดยดัชนี Stoxx 600 ไต่ขึ้น 1.2% และดัชนี FTSE 100 ของสหราชอาณาจักรบวกขึ้น 1.6% หลังดัชนี PMI สหราชอาณาจักรและเยอรมนีช่วยหนุนความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนให้สูงขึ้น ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดทำการในวันนี้เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
4. ผลประกอบการ Intel (NASDAQ:INTC) เป็นที่น่าพอใจ
หุ้น Intel (NASDAQ:INTC) ทะยานขึ้น 6% ในช่วงเวลาหลังตลาดปิดเมื่อรายได้และผลกำไรในไตรมาสล่าสุดออกมาดีเกินคาด เนื่องมาจากอุปสงค์การซื้อชิพที่สูงขึ้นเพื่อนำไปใช้ในศูนย์ข้อมูลของเซิร์ฟเวอร์คลาวด์
นอกจากนี้ราคาหุ้นยังได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่สูงขึ้น 2% จากการขายพีซี อันเนื่องมาจากอุปสงค์การซื้อพีซีรุ่นใหม่ที่สูงขึ้นหลังจาก Microsoft ประกาศเลิกให้การสนับสนุน Windows 7 ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคจำเป็นต้องอัปเกรดพีซีเป็นรุ่นใหม่
5. กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันมีแววลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มเติม
ตลาดน้ำมันยังคงได้รับผลกระทบจากความหวาดหวั่นต่อการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบสหรัฐฯ ขยับลง 0.6% เท่ากับ $55.27 ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ปรับลง 0.6% อยู่ที่ $61.64 ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงในระยะเวลาสองวันที่ผ่านมาได้สร้างแรงกดดันให้แก่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายหลักส่วนใหญ่ โดยล่าสุดทางภาครัฐจากซาอุดิอาระเบียและประเทศอื่น ๆ ได้ส่งสัญญาณว่าอาจมีความเป็นไปได้ที่จะลดกำลังการผลิตมากขึ้นและยืดเวลาการลดกำลังการผลิตออกไปอีกจากเดิมที่เคยตกลงกันไว้จนถึงเดือนมีนาคม
ส่วนในวันนี้หลังจากเวลาตลาดปิด Baker Hughes จะรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมัน