Investing.com - ห้าประเด็นหลักที่คุณควรทราบก่อนเริ่มต้นสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้
- ความผันผวนของสถานการณ์ทางการค้ายังคงดำเนินต่อไป
เมื่อวานนี้จีนได้ออกมาประกาศยกเลิกการเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ บางรายงานที่เดิมมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 ธันวาคมแล้ว หลังจากเมื่อวันศุกร์ทั้งสองประเทศมหาอำนาจได้เห็นชอบข้อตกลง "ขั้นแรก"
ข่าวลือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงฉบับนี้ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดซื้อขายทั่วโลกมาหลายเดือน โดยครั้งนี้สหรัฐฯ ตกลงว่าจะปรับลดภาษีศุลกากรจีนบางรายการเพื่อแลกกับการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากสหรัฐฯ ครั้งใหญ่ แต่ทั้งสองฝ่ายกลับยังไม่ได้เผยปริมาณการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่จีนได้ตกลงสั่งซื้อแต่อย่างใด
และแม้ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะออกมาประกาศว่า การเจรจาทางการค้า "ขั้นที่สอง" จะดำเนินต่อทันที แต่จีนกลับยืนกรานว่าการเจรจาทางการค้าขั้นต่อไปจะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของการบังคับใช้ข้อตกลงขั้นแรก
- ความคลุมเครือของ Brexit จะลดลงจริงหรือไม่
ชัยชนะอย่างใสสะอาดของพรรคอนุรักษนิยมที่นำโดยนายบอริส จอห์นสัน ได้ปูทางให้สหราชอาณาจักรถอนตัวจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 มกราคมนี้ และกระบวนการถอนตัวก็สามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่การเปิดสภาด้วยการให้คำกล่าวจากพระราชินีในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคำกล่าวของพระราชินีมักจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่รัฐบาลวางแผนที่จะบังคับใช้ในระยะเวลาไม่กี่ปีข้างหน้า
รัฐมนตรีอังกฤษ นายไมเคิล โกฟ ได้กล่าวไว้เมื่อวานนี้ว่า ประเด็นเร่งด่วนของรัฐบาลอังกฤษคือการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 มกราคมและทำข้อตกลงทางการค้าฉบับใหม่กับสหภาพยุโรปภายในสิ้นปีหน้า
ในวันพฤหัสบดีนี้จะเป็นโอกาสแรกของ ธนาคารกลางอังกฤษ ในการดูทิศทางของเศรษฐกิจหลังจากการเลือกตั้ง โดยผู้ลงทุนจะจับตาการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในมุมมองของธนาคารเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ เศรษฐกิจโดยรวมของอังกฤษ และภาพรวมด้านอัตราดอกเบี้ยสำหรับปี 2020
- สมาชิกเฟดให้คำกล่าว
ตลาดจะเฝ้าจับตาการให้คำกล่าวของสมาชิกเฟดหลายท่านในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากเฟดได้ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ดังเดิมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและจะคงอัตราดอกเบี้ยเช่นนี้ไปจนถึงปี 2020 โดยประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ ชี้ว่าธนาคารฯ เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเป็นไปในทิศทางที่น่าพอใจ
ประธานเฟดประจำดัลลัส นายโรเบิร์ต แคปแลน, ประธานเฟดประจำนิวยอร์ก นายจอห์น วิลเลียมส์ และประธานเฟดประจำบอสตัน นายเอริค โรเซนเกรน ล้วนมีกำหนดการให้คำกล่าวในวันพรุ่งนี้ ส่วนประธานเฟดประจำชิคาโก นายชาร์ลส์ อีวานส์ มีกำหนดการให้คำกล่าววันมะรืนนี้
- ข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
ปฏิทินเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ประกอบไปด้วย ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม, ตัวเลขภาคอสังหาริมทรัพย์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, รายรับ และ รายจ่าย ส่วนบุคคล และการปรับตัวเลข GDP ประจำไตรมาสที่สาม
นักวิเคราะห์ท่านหนึ่งจาก ING ได้ให้ความคิดเห็นไว้ว่า “ภาพรวมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ น่าจะยังแสดงให้เห็นถึงภาวะการถดถอยในภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลกระทบมาจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการค้าผนวกกับอุปสงค์ทั่วโลกที่ลดลงและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น ทว่าพนักงานราว 50,000 รายจาก General Motors จะเริ่มกลับไปทำงานภายหลังการประท้วงหยุดงานครั้งล่าสุด ซึ่งน่าจะส่งผลให้ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยานยนต์พลิกฟื้นขึ้น"
- เยอรมนีจะหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยใน Q4 ได้หรือไม่