โดย Noreen Burke
Investing.com -- สัปดาห์นี้นักลงทุนจะเฝ้าติดตามข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ(CPI) ในวันอังคารอย่างใกล้ชิด เพื่อความชัดเจนเกี่ยวกับเส้นทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ฤดูกาลประกาศผลประกอบการกำลังจะสิ้นสุดลง ในขณะที่สหราชอาณาจักรมีกำหนดจะเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจจำนวนมาก รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมเสนอชื่อผู้ว่าการธนาคารกลางคนใหม่ และยูโรโซนจะเผยแพร่การคาดการณ์เศรษฐกิจรายไตรมาสที่ได้รับอัพเดทแล้ว และนี่คือ 5 สิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เพื่อเริ่มต้นสัปดาห์ของคุณ
- ข้อมูล CPI
นักลงทุนจะเฝ้ารอตัวเลข CPI ในวันอังคารอย่างใจจดใจจ่อ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับปานกลาง หลังจากข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทำให้ตลาดปรับความคาดหวังใหม่ว่าเฟดอาจต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงเพียงใดในปีนี้
อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในเดือนธันวาคมแทนที่จะลดลงตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ และข้อมูลสำหรับสองเดือนก่อนหน้าก็เพิ่มขึ้น ตามการแสดงข้อมูล CPI ฉบับปรับปรุงประจำปีของกรมแรงงาน
ถ้าอัตราเงินเฟ้อออกมาแข็งแกร่งอาจบังคับให้ตลาดต้องคิดใหม่ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยจริงหรือไม่ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการแรลลี่ที่กระตุ้นหุ้นและพันธบัตรหลังจากเจอกับตลาดหมีไปในปีที่แล้ว
ปฏิทินเศรษฐกิจยังมีข้อมูลของเดือนมกราคม ยอดค้าปลีก ข้อมูล PPI และรายงานประจำสัปดาห์ของ ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนมีกำหนดปรากฏตัวในระหว่างสัปดาห์ รวมถึงประธานเฟดนิวยอร์ก จอห์น วิลเลียมส์, เซนต์หลุยส์ หัวหน้าเฟด เจมส์ บุลลาร์ด, แพทริค ประธานเฟดแห่งฟิลาเดลเฟีย ฮาเกอร์ และลอเร็ตต้า เมสเตอร์ ประธานเฟดแห่งคลีฟแลนด์
- ข้อมูลผลประกอบการมาถึงโค้งสุดท้าย
Nasdaq ร่วงลงประจำสัปดาห์เป็นสัปดาห์แรกของปีนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยลดลง 2.41% ขณะที่ S&P 500 ปิดสัปดาห์ลดลง 1.11% และ ดาวโจนส์ ร่วงลง 0.17% ในหนึ่งสัปดาห์ซึ่งถูกกดดันโดยความเห็นจากเจ้าหน้าที่เฟดและรายงานผลประกอบการ
มากกว่าครึ่งหนึ่งของบริษัทที่จดทะเบียนในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการ โดย 69% สูงกว่าประมาณการกำไรในไตรมาสนี้ ตามข้อมูลของ Refinitiv
รายได้ที่โดดเด่นในสัปดาห์ข้างหน้า ได้แก่ Coca-Cola (NYSE:KO) ซึ่งมีกำหนดรายงานก่อนเปิดทำการในวันอังคาร Barrick Gold (NYSE:GOLD), Kraft Heinz (NASDAQ:KHC), Krispy Kreme (NASDAQ:DNUT) และ Biogen (NASDAQ: BIIB) พร้อมที่จะรายงานก่อนตลาดเปิดในวันพุธ ในขณะที่ Deere (NYSE:DE) จะรายงานก่อนตลาดเปิดในวันศุกร์
- ข้อมูลของสหราชอาณาจักร
ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและการจ้างงานของสหราชอาณาจักรในสัปดาห์นี้จะช่วยให้ธนาคารกลางประเทศอังกฤษพิจารณาว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนมีนาคมหรือไม่
BOE ระบุว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานที่ 50 จุดในเดือนกุมภาพันธ์อาจเป็นครั้งสุดท้ายในรอบทในปัจจุบัน แต่รายงาน เงินเฟ้อ ของเดือนมกราคมในวันพุธคาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก
ในขณะเดียวกัน รายงานตำแหน่งงานในวันอังคารคาดว่าจะแสดงให้เห็นว่า wage growth กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้แรงกดดันต่อ BOE และข้อมูล retail sales เดือนมกราคมในวันศุกร์คาดว่าจะ แสดงการลดลงอีกครั้ง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว BOE คาดการณ์ว่าอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเล็กน้อย แต่ยาวนาน โดยเริ่มตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้และยาวนานถึง 5 ไตรมาส
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น
ในวันอังคารนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมเสนอชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งแทนฮารุฮิโกะ คุโรดะอย่างเป็นทางการ ซึ่งวาระการดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นจะสิ้นสุดในเร็ว ๆ นี้
สกุลเงิน เยน เริ่มขยับสูงขึ้นตามรายงานเมื่อวันศุกร์ว่า คาซุโอะ อุเอดะ นักวิชาการวัย 71 ปีและอดีตสมาชิกคณะกรรมการนโยบายของ BOJ จะได้รับการเสนอชื่อ แต่สกุลเงินเยนรีบาวบางส่วนหลังจากที่เขาแสดงการสนับสนุนสถานะปัจจุบันของธนาคารกลาง
BOJ จะปรับท่าทีนโยบายเมื่อใดและอย่างไรนั้นเป็นหนึ่งในคำถามสำคัญที่ตลาดทั่วโลกจับตาในปีนี้ ผู้ที่เฝ้าดู BOJ สงสัยว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงเมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น
แม้ว่าอุเอดะจะได้รับการพิจารณาว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายการเงิน แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่กล่าวว่าการแต่งตั้งของเขานั้นเป็นเรื่องคาดไม่ถึง และอาจส่งสัญญาณถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นพิเศษเร็วกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก
- ยูโรโซน
คณะกรรมาธิการยุโรปจะเผยแพร่ คาดการณ์ เศรษฐกิจรายไตรมาสสำหรับยูโรโซนในวันพุธ ก่อนหน้านั้น ยูโรโซนจะเปิดเผยข้อมูล GDP ฉบับแก้ไขในวันอังคาร
คริสติน ลาร์การ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรปมีกำหนดจะเป็นพยานในรายงานประจำปีของธนาคารต่อหน้ารัฐสภายุโรปในเมือง Strasbourg ในวันพุธ
เจ้าหน้าที่ ECB คนอื่น ๆ ที่จะปรากฏตัวในระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ฟิลลิป เลน รองประธาน ลูอิส เด กินโดส พร้อมด้วยสมาชิกคณะกรรมการบริหาร ฟาบิโอ ปาเนตต้า และ อิสซาเบล ชนาเบล
--ข้อมูลจากสำนักข่าวรอยเตอร์ส