1. รายงานผลประกอบการของ Salesforce และ Marvell Tech
ก่อนหน้าการรายงานผลประกอบการ ตลาดส่วนใหญ่คาดว่าการซื้อกิจการจำนวนมากที่ผ่านมาน่าจะหนุนรายได้จากซอฟต์แวร์องค์กรของ Salesforce ให้สูงขึ้น
อ้างอิงจากผลคาดการณ์ที่ Investing.com รวบรวมมา คาดว่า Salesforce จะ ทำกำไร ได้ 66 เซนต์ต่อหุ้น จากปีก่อน 61 เซนต์ต่อหุ้น
ก่อนหน้านี้บริษัทได้ออกมาลดตัวเลขคาดการณ์รายได้สำหรับไตรมาสที่สาม และส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมระดับมหภาคที่ย่ำแย่ลง รวมทั้งผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากข้อจำกัดด้านการส่งออกสินค้าให้กับ Huawei ด้วย
ถึงกระนั้นข้อจำกัดด้านการขนส่งสินค้าไปยัง Huawei ได้มีการอนุโลมไว้นานแล้วและยืดเวลาไปจนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ปี 2020
2. ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสภาพทางธุรกิจของนิวยอร์ก, ยอดขายยานยนต์
ในวันนี้ปฏิทินเศรษฐกิจค่อนข้างเบาบาง โดยจะมีตัวเลขชี้วัดสภาพทางธุรกิจของนิวยอร์กในเวลา 9:45 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (14:45 GMT) และยอดขายยานยนต์สุทธิของสหรัฐฯ ในเวลา 18.00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (23:00 GMT)
ดัชนีสภาวะทางธุรกิจของนิวยอร์กจาก ISM ในเดือนที่แล้วคาดว่าจะทรุดตัวลงอยู่ที่ 44.7% จากเมื่อเดือนตุลาคมที่ 47.7%
ยอดขายยานยนต์สุทธิของสหรัฐฯ ก็จะเป็นที่น่าจับตาด้วยเช่นกันหลังจากเดือนที่แล้วยอดขายประจำเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่อัตรารายปีเท่ากับ 16.8 ล้าน สูงขึ้นจากเมื่อเดือนตุลาคม 16.6 ล้าน แต่ลดลงกว่าเดือนพฤศจิกายนปี 2018 ที่ 17.5 ล้าน
3. ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ จาก API
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ จากสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (API) จะรายงานออกมาในวันนี้หลังเวลาตลาดปิด
สัปดาห์ที่แล้ว ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ของ API ประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดก่อนวันที่ 29 พฤศจิกายนสูงขึ้นมา 3.6 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และการเดิมพันว่ากลุ่มโอเปกจะประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อไปอีกหรือไม่เมื่อถึงการประชุมในสัปดาห์นี้ โดยการประชุม ณ กรุงเวียนนาจะเริ่มต้นขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัส ปิดบวก 79 เซนต์อยู่ที่ $55.96 ต่อบาร์เรล โดยราคาสัญญา WTI ได้ทะยานขึ้นมา 23.2% แล้วในปีนี้