การดํารงตําแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ได้รับประโยชน์จากดอลลาร์และหุ้น

ในขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์เตรียมพร้อมสําหรับการกลับมาที่สํานักงานรูปไข่ ดอลลาร์สหรัฐฯ และตลาดหุ้นคาดว่าจะกลายเป็นผู้รับผลประโยชน์ ในขณะที่ตลาดตราสารหนี้และภาคส่วนต่างๆ เช่น ตลาดเกิดใหม่ พลังงานสะอาด และการลงทุนที่ยั่งยืนอาจเผชิญกับความท้าทาย

นักลงทุนคาดการณ์ว่านโยบายของทรัมป์มีแนวโน้มที่จะนําไปสู่อัตราเงินเฟ้อและการเติบโตที่สูงขึ้น สถานการณ์นี้คาดว่าจะแข็งค่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

นักวิเคราะห์จากซิตี้คาดการณ์ว่าดอลลาร์จะพุ่งขึ้น 3% หลังจากชัยชนะของทรัมป์ เงินยูโรอาจประสบกับการลดลงอย่างมีนัยสําคัญ ซึ่งอาจลดลงต่ํากว่าระดับ 1 ดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการใช้ภาษีที่เสนอโดยทรัมป์และการลดภาษีภายในประเทศ

คาดว่าเงินหยวนของจีนจะอ่อนค่าลง ซึ่งชวนให้นึกถึงการลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงปี 2018-2020 การคาดการณ์อัตราผลตอบแทนดอลลาร์ที่สูงขึ้นได้กําหนดเวทีสําหรับการซื้อขายหุ้นกู้ที่จะกลับมาอีกครั้ง โดยเงินเยนญี่ปุ่นและฟรังก์สวิสเผชิญกับแรงกดดันในการขายก่อนการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ฟรังก์สวิสอาจได้รับแรงหนุนเนื่องจากการส่งออกมูลค่าสูงของสวิตเซอร์แลนด์และผลการดําเนินงานในอดีตในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง

ในขอบเขตสกุลเงินดิจิทัล bitcoin อาจได้รับผลกําไรภายใต้การบริหารของทรัมป์ ซึ่งคาดว่าจะใช้จุดยืนที่อ่อนโยนขึ้นในกฎระเบียบ สกุลเงินดิจิทัลแตะระดับสูงสุดใหม่ตลอดกาลในวันนี้

ในตลาดหุ้นคํามั่นสัญญาของทรัมป์ในการยกเลิกกฎระเบียบการลดภาษีสําหรับบริษัทการผลิตน้ํามันที่เพิ่มขึ้นและนโยบายการย้ายถิ่นฐานที่เข้มงวดมีแนวโน้มที่จะส่งเสริมภาคส่วนต่างๆเช่นธนาคารเทคโนโลยีกลาโหมและเชื้อเพลิงฟอสซิล Goldman Sachs ประมาณการว่าแผนการของทรัมป์ในการลดอัตราภาษีนิติบุคคลจาก 21% เป็น 15% สามารถเพิ่มรายได้ของ S&P 500 ได้ประมาณ 4%

อย่างไรก็ตาม ขอบเขตของความสําเร็จของแผนการลดภาษีของทรัมป์ในสภาคองเกรสยังคงไม่แน่นอน จุดยืนแบบปกป้องและแนวทางที่แข็งกร้าวของเขาต่อจีนอาจเพิ่มต้นทุนให้กับบริษัทข้ามชาติ ซึ่งส่งผลเสียต่อความสามารถในการทํากําไรของพวกเขา

รายได้ของยุโรปอาจเห็นเปอร์เซ็นต์ลดลง "ตัวเลขหลักเดียวสูง" หากความขัดแย้งทางการค้ากลับมาอีกครั้ง ตามที่คําเตือนโดย Barclays (LON:BARC) ภาคกลาโหมในยุโรปอาจมีผลลัพธ์ที่หลากหลาย ด้วยความมุ่งมั่นของทรัมป์ในการยุติสงครามยูเครน แต่ยังเรียกร้องให้ใช้จ่ายด้านกลาโหมที่สูงขึ้นจากพันธมิตรในยุโรป

ในด้านพันธบัตร ความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับระดับหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ และการขาดดุลการคลังได้นําไปสู่ความกลัวว่าต้นทุนการกู้ยืมจะเพิ่มขึ้น แผนการใช้จ่ายของทรัมป์ ซึ่งอาจเพิ่มการขาดดุลประมาณ 7.5 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสิบปี ได้ผลักดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้นเกือบ 50 จุดพื้นฐานในเดือนตุลาคม แรงกดดันด้านเงินเฟ้อของนโยบายของเขาจะจํากัดความสามารถของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการลดอัตราดอกเบี้ย ทําให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอยู่ในระดับสูง

Commodities อาจได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเป้าหมายของทรัมป์ในการเพิ่มการขุดเจาะน้ํามันและก๊าซของสหรัฐฯ น่าจะทําให้ราคาน้ํามันดิบฟิวเจอร์ส West Texas Intermediate อยู่ในระดับต่ํา อย่างไรก็ตาม ความตั้งใจของเขาที่จะบังคับใช้มาตรการคว่ําบาตรน้ํามันต่ออิหร่านและเติมเต็มคลังสํารองปิโตรเลียมเชิงยุทธศาสตร์สามารถสนับสนุนราคาได้ ตลาดถั่วเหลืองกําลังรู้สึกถึงผลกระทบแล้ว โดยราคาจีนลดลง 25% จากปีที่แล้ว ท่ามกลางความกังวลเรื่องความตึงเครียดทางการค้ากับจีน

ตลาดเกิดใหม่กําลังเตรียมพร้อมสําหรับอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงภาษีนําเข้ารถยนต์ของเม็กซิโกที่เป็นไปได้ และภาษีที่เสนอสําหรับการโอนเงินโดย JD Vance ผู้สมัครรองประธานาธิบดีของทรัมป์ แรนด์แอฟริกาใต้ เรียลบราซิล และตลาดหุ้นในประเทศเหล่านี้อาจได้รับผลกระทบหากภาษีเพิ่มขึ้น การเทขายพันธบัตรรัฐบาลและเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอาจดึงเงินออกจากตลาดเกิดใหม่และบังคับให้นโยบายการเงินเข้มงวดขึ้น

ในแง่ของการลงทุนอย่างยั่งยืน ชัยชนะของทรัมป์จะช่วยให้เขาสามารถยกเลิกกฎระเบียบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและอาจส่งผลกระทบต่อหุ้นในภาคน้ํามัน ก๊าซ และถ่านหิน เขายังขู่ว่าจะเพิกถอนเงินทุนภายใต้พระราชบัญญัติลดอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเงินอุดหนุนสําหรับรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน

อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนสําคัญใดๆ ในการลดส่วนแบ่งในภาคส่วนเหล่านี้อาจต้องมีการดําเนินการของรัฐสภา และสมาชิกสภานิติบัญญัติของพรรครีพับลิกันบางคนได้แสดงการสนับสนุนบางส่วนของกฎหมายสภาพภูมิอากาศ

คํามั่นสัญญาของทรัมป์ที่จะปลด Gary Gensler ออกจากตําแหน่งประธานค่านายหน้ากํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ อาจขัดขวางความสามารถของกองทุนที่ยั่งยืนของสหรัฐฯ ในการกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย กองทุนเหล่านี้มีการถอนสุทธิตั้งแต่ปีที่แล้วเนื่องจากราคาพลังงานที่สูงซึ่งส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนสัมพัทธ์

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน