KKR & Co (นิวยอร์ก:KKR) ประสบความสําเร็จในการระดมทุน 4.6 พันล้านดอลลาร์สําหรับกองทุนแรกที่อุทิศให้กับข้อตกลงระดับกลางในอเมริกาเหนือ โดยนําทางผ่านบรรยากาศการระดมทุนที่ท้าทายซึ่งได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงซึ่งได้จํากัดความกระตือรือร้นของนักลงทุนในการเข้าซื้อกิจการด้วยหนี้
บริษัทไพรเวทอิควิตี้ของสหรัฐฯ ซึ่งจัดการสินทรัพย์ 601 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 30 มิถุนายน ได้เกินเป้าหมายการระดมทุน ซึ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่แข็งแกร่งในกลยุทธ์ของตน แม้ว่านักลงทุนจะลังเลโดยทั่วไปที่จะมุ่งมั่นที่จะร่วมทุนไพรเวทอิควิตี้ใหม่
Pete Stavros หัวหน้าร่วมฝ่ายไพรเวทอิควิตี้ระดับโลกของ KKR กล่าวว่าความสามารถของบริษัทในการระดมทุนเกินเป้าหมายในสภาพแวดล้อมที่ยากลําบากเช่นนี้เน้นย้ําถึงตําแหน่งทางการตลาดที่เป็นเอกลักษณ์
ความพยายามในการระดมทุนล่าสุดของบริษัทเป็นไปตามรายงานจากเดือนมิถุนายนเกี่ยวกับแผนการของ KKR ที่จะรวบรวมเงิน 20 พันล้านดอลลาร์สําหรับกองทุนไพรเวทอิควิตี้เรือธงในอเมริกาเหนือที่กําลังจะมาถึง
ภูมิทัศน์การระดมทุนเป็นเรื่องยาก โดยบริษัทไพรเวทอิควิตี้พบว่าเป็นการยากที่จะคืนเงินทุน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงทําให้การขายบริษัทหรือความพยายามในการรีไฟแนนซ์มีความซับซ้อน
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วในการลดอัตราการกู้ยืมของสหรัฐฯ คาดว่าจะฟื้นฟูกิจกรรมข้อตกลงหุ้นเอกชน
ตามข้อมูลจาก LSEG ปริมาณการซื้อกิจการที่ได้รับการสนับสนุนจากไพรเวทอิควิตี้ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 41% เป็น 517.2 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากสภาพแวดล้อมทางการเงินที่เอื้ออํานวยมากขึ้นซึ่งนําไปสู่การเพิ่มขึ้นของธุรกรรมการซื้อกิจการ
กองทุน Ascendant Fund เปิดตัวในปี 2022 และเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มไพรเวทอิควิตี้ในอเมริกาของ KKR ถือเป็นการบุกรุกครั้งแรกของบริษัทในกองทุนที่มุ่งเป้าไปที่กลุ่มตลาดกลางโดยเฉพาะ
กองทุนได้ดึงดูดกลุ่มนักลงทุนที่หลากหลาย รวมถึงเงินบํานาญสาธารณะ สํานักงานครอบครัว และบริษัทประกันภัย และมีการจองซื้อมากเกินไปเมื่อปิดตลาด กองทุน Ascendant ได้เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการไปแล้วหกครั้ง รวมถึงบริษัทต่างๆ เช่น Alchemer, 123Dentist และ Marmic Fire & Safety
การหันไปหาข้อตกลงในตลาดกลางของ KKR สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่กว้างขึ้นในหมู่บริษัทไพรเวทอิควิตี้ที่แสวงหาโอกาสใหม่ๆ ท่ามกลางการชะลอตัวของการซื้อกิจการที่มีเลเวอเรจมากขึ้น
นอกจากนี้ KKR ยังมุ่งมั่นที่จะใช้แนวทางใหม่ในการเสนอส่วนของผู้ถือหุ้นให้กับพนักงานที่ไม่ใช่ผู้บริหารในบริษัทพอร์ตโฟลิโอในอเมริกาเหนือทั้งหมดที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก Ascendant Fund ใหม่ โดยขยายแนวปฏิบัติที่เริ่มขึ้นในปี 2011
ความคิดริเริ่มด้านความเป็นเจ้าของพนักงานในวงกว้างนี้ได้ถูกนําไปใช้ในบริษัทพอร์ตโฟลิโอของ KKR กว่า 50 แห่ง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อพนักงานมากกว่า 110,000 คนด้วยส่วนของผู้ถือหุ้นหลายพันล้านดอลลาร์ มีรายงานว่าโปรแกรมนี้ส่งผลให้เกิดประโยชน์ที่สําคัญ รวมถึงรายได้ที่สูงขึ้น ผลผลิตที่ดีขึ้น และผลประกอบการที่ลดลง Henry Kravis ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานบริหารร่วมของ KKR เน้นย้ําถึงความสําเร็จของโปรแกรมในเดือนเมษายน โดยอ้างถึงตัวอย่างที่สร้างรายได้เพิ่มเติมเฉลี่ย 175,000 ดอลลาร์ต่อพนักงานหนึ่งคนที่บริษัทประตูโรงรถที่ KKR เป็นเจ้าของก่อนหน้านี้
รอยเตอร์มีส่วนร่วมในบทความนี้
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน