การเติบโตของการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงอาจกระตุ้นให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน

การเติบโตของการจ้างงานของสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคมชะลอตัวลงอย่างมาก ทําให้เกิดการคาดเดาว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน กระทรวงแรงงานรายงานเมื่อวันศุกร์ว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 114,000 ตําแหน่ง ซึ่งลดลงอย่างเห็นได้ชัดจาก 179,000 ตําแหน่งที่เพิ่มในเดือนมิถุนายน ซึ่งปรับลดลงจากประมาณการเบื้องต้นที่ 206,000 ตําแหน่ง อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 4.3% ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นที่อาจส่งสัญญาณถึงความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของตลาดแรงงานและความเสี่ยงของเศรษฐกิจในวงกว้างที่จะถดถอย

การเติบโตของงานที่ชะลอตัวนั้นรุนแรงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตําแหน่ง ผลกระทบของพายุเฮอริเคนเบริลซึ่งทําให้ไฟฟ้าดับในเท็กซัสและส่งผลกระทบต่อรัฐลุยเซียนาในช่วงสัปดาห์การสํารวจอาจส่งผลให้การจ้างงานลดลงกว่าที่คาดไว้

เพื่อตอบสนองต่อตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอ เทรดเดอร์ได้ปรับความคาดหวังสําหรับการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของเฟด โดยเดิมพันว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยครึ่งเปอร์เซ็นต์อย่างมากในเดือนกันยายน ตลาดได้กําหนดความน่าจะเป็น 70% ให้กับการลดจุดหนึ่งในสี่ที่เจียมเนื้อเจียมตัวมากขึ้น

ปฏิกิริยาของตลาดรวมถึงการลดลง 1.69% ของฟิวเจอร์ส S&P 500 E-mini อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ลดลงเหลือ 3.835% และอัตราผลตอบแทนหุ้นกู้อายุ 2 ปีลดลงเหลือ 3.945% ดัชนีดอลลาร์ก็ร่วงลงเช่นกัน ขยายการขาดทุนเป็น -0.7%

Stuart Cole หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์มหภาคของ Equiti Capital ในลอนดอน กล่าวว่าตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอตอกย้ําโอกาสที่เฟดจะปรับลดเดือนในเดือนกันยายน เขาชี้ให้เห็นถึงการพลาดอย่างมีนัยสําคัญในตัวเลขพาดหัว การแก้ไขลดลงจากตัวเลขของเดือนก่อนหน้า และอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น Cole ยังตั้งข้อสังเกตว่าปฏิกิริยาเชิงลบของหุ้นต่อข้อมูลชี้ให้เห็นถึงความกังวลว่าเฟดอาจล้าหลังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

Melissa Brown กรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัยประยุกต์ที่ SimCorp ในนิวยอร์กเน้นย้ําถึงลักษณะที่ไม่คาดคิดของตัวเลขบรรทัดบนสุดและศักยภาพที่จะกระตุ้นให้เฟดดําเนินการในการประชุมครั้งต่อไป เธอรับทราบถึงความกังวลเกี่ยวกับอัตราการว่างงานที่สูงขึ้น แต่ก็ตระหนักดีว่าอัตราการว่างงานยังคงค่อนข้างต่ํา บราวน์เน้นย้ําถึงความสําคัญของข้อมูลที่จะเกิดขึ้น รวมถึงรายงานเงินเฟ้อฉบับต่อไป ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเฟดเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

Wasif Latif ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Sarmaya Partners ในเมืองพรินซ์ตัน รัฐนิวเจอร์ซีย์ อธิบายถึงการตระหนักถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจและความเป็นไปได้ที่แนวโน้มการว่างงานจะดําเนินต่อไปในทิศทางเดียวกัน Latif แนะนําว่าเฟดอาจผิดพลาดโดยไม่ลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่านี้ และขณะนี้ตลาดกําลังปรับตัวให้เข้ากับความเป็นจริงใหม่นี้

Brian Jacobsen หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Annex Wealth Management ในเมือง Menomonee Falls รัฐวิสคอนซิน คาดการณ์ว่าประธานเฟดพาวเวลล์อาจเลือกที่จะลดอัตราดอกเบี้ยหากเขาทราบข้อมูลปัจจุบันก่อนหน้านี้ Jacobsen ชี้ให้เห็นถึงการลดลงของชั่วโมงการทํางานภาคการผลิตในสัปดาห์เป็นตัวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอาจไม่ได้อยู่ในภาวะที่อ่อนแอ โดยเน้นย้ําถึงความเร่งด่วนสําหรับเฟดในการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจ

การประชุมครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐฯ อยู่ภายใต้การตรวจสอบอย่างเข้มงวด เนื่องจากผู้เข้าร่วมตลาดและนักเศรษฐศาสตร์ต่างรอข้อมูลเพิ่มเติมที่อาจส่งผลต่อกระบวนการตัดสินใจของธนาคารกลาง

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน