มาตรการทางเศรษฐกิจของไบเดนจะทิ้งร่องรอยที่ยั่งยืน

การบริหารงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้สร้างผลกระทบอย่างมีนัยสําคัญกับวาระทางเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงชุดเงินช่วยเหลือและการลงทุนสาธารณะทั่วสหรัฐอเมริกา แม้จะมีความท้าทายทางการเมืองและความสงสัยจากบางฝ่าย แต่ความคิดริเริ่มที่ดําเนินการโดยฝ่ายบริหารมีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นการเปลี่ยนผ่านพลังงานหลังคาร์บอน ความพยายามเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มผลผลิต รักษาความปลอดภัยห่วงโซ่อุปทาน และจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นักวิจารณ์แสดงความกังวลว่ากลยุทธ์ทางเศรษฐกิจของไบเดนได้เพิ่มการขาดดุล แทรกแซงตลาดเอกชน และมีส่วนทําให้เกิดอัตราเงินเฟ้อ พวกเขายังตั้งคําถามถึงประสิทธิผลของนโยบายต่างๆ เช่น การให้อภัยเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาและการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการผูกขาด อย่างไรก็ตาม ความทะเยอทะยานของไบเดนในการเป็นประธานาธิบดีที่เปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจนั้นเห็นได้ชัดในการแสวงหาแนวคิดทางเศรษฐกิจที่ก้าวหน้าซึ่งพัฒนาขึ้นตั้งแต่วิกฤตการเงินปี 2007-2009

แนวทางของไบเดนได้นํา "นโยบายอุตสาหกรรม" กลับมาใช้ใหม่ ซึ่งเขาได้เปลี่ยนชื่อเป็นเศรษฐกิจด้านอุปทานด้วยมุมที่ก้าวหน้า Mark Muro นักวิจัยอาวุโสของโครงการนโยบายมหานครของสถาบันบรูคกิ้งส์ ยกย่องไบเดนที่ฝ่าฟันความขัดแย้งทางการเมืองที่มีมาอย่างยาวนาน และลงทุนด้านเทคโนโลยี พลังงานสีเขียว และโครงสร้างพื้นฐาน โดยมุ่งเน้นไปที่การรวมและกระจายประโยชน์ของนวัตกรรม

กฎหมายทางเศรษฐกิจของไบเดนรวมถึงร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ที่ผ่านในปี 2021 และมาตรการสําคัญอื่นๆ เช่น แผนช่วยเหลือชาวอเมริกันมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งประกาศใช้ไม่นานหลังจากที่เขาเข้ารับตําแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2021 ร่างกฎหมายนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเร่งการฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 และลดอัตราการว่างงานลงอย่างเห็นได้ชัด

ร่างกฎหมายที่ตามมาได้สนับสนุนการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ และพระราชบัญญัติลดอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งแม้จะมีการโต้เถียงกัน แต่ก็รวมถึงแรงจูงใจสําหรับการผลิตพลังงานสีเขียวและยานยนต์ไฟฟ้า

เมื่อไบเดนลาออกจากการแสวงหาการเลือกตั้งใหม่ในวันอาทิตย์ผลกระทบที่ยั่งยืนของนโยบายเศรษฐกิจของเขายังคงเป็นประเด็นถกเถียงกัน ในขณะที่บางโปรแกรมอาจเผชิญกับการพลิกกลับหากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายน ผู้เชี่ยวชาญอย่าง Mark Zandi หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Moody's Analytics เชื่อว่างานส่วนใหญ่ของไบเดนจะคงอยู่ Zandi เน้นย้ําว่าประเทศนี้รอดพ้นจากการระบาดใหญ่ด้วยความเสียหายทางเศรษฐกิจน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งบ่งชี้ว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการผลิตชิปได้เริ่มแสดงผลลัพธ์แล้ว

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน