ตลาดสหราชอาณาจักรถูกมองว่าเป็นที่หลบภัยท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองทั่วโลก

นักลงทุนกําลังพิจารณาตลาดของสหราชอาณาจักรมากขึ้นในฐานะที่หลบภัยที่มีศักยภาพท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกาและส่วนอื่น ๆ ของยุโรป

การเปลี่ยนมุมมองนี้เกิดขึ้นหลังจากชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเมื่อเร็ว ๆ นี้สําหรับรัฐบาลแรงงานกลางซ้ายของสหราชอาณาจักรซึ่งชี้ให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมทางนโยบายที่คาดการณ์ได้มากขึ้นและศักยภาพในการปรับปรุงการค้ากับสหภาพยุโรป

เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรเผชิญกับความท้าทายนับตั้งแต่การลงคะแนนเสียง Brexit ในปี 2559 แต่มีข้อบ่งชี้ถึงการฟื้นตัว และนายธนาคารบางคนคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นสหราชอาณาจักรจะฟื้นตัว ซึ่งได้รับความเดือดร้อนภายใต้ความปั่นป่วนของรัฐบาลอนุรักษ์นิยมที่สืบทอดกันมา

BlackRock Investment Institute แสดงท่าทีเชิงบวกต่อหุ้นสหราชอาณาจักรในวันอังคาร ซึ่งส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปได้ในความเชื่อมั่นของสถาบันระดับโลกที่ระมัดระวังสหราชอาณาจักรมาตั้งแต่ปี 2559 อย่างไรก็ตาม การอุทธรณ์ของสหราชอาณาจักรในฐานะที่หลบภัยนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ Keir Starmer ในการยกระดับมาตรฐานการครองชีพโดยไม่ทําให้ความเครียดทางการเงินของประเทศรุนแรงขึ้น

Pictet Wealth Management ตั้งข้อสังเกตถึงแนวโน้มที่ดีขึ้นเนื่องจากการเลือกตั้งในสหราชอาณาจักรและความกังวลในยุโรปที่เกิดจากฝรั่งเศส การลงทุนได้เปลี่ยนจากหนี้ภาคธุรกิจในยุโรปเป็นเทียบเท่าในสหราชอาณาจักรแม้ว่าตําแหน่งนี้อาจไม่ได้รับการรักษาไว้นานกว่าหกเดือน

แม้จะมีการถอนตัวอย่างต่อเนื่องจากกองทุนหุ้นของสหราชอาณาจักรและตัวติดตามตลาดหุ้นตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม แต่ก็มีพัฒนาการในเชิงบวก มีการตั้งข้อสังเกตถึงข้อเสนอที่สําคัญที่อาจเกิดขึ้นจากบริษัทต่างๆ เช่น Shein และ De Beers และหน่วยงานกํากับดูแลตลาดของสหราชอาณาจักรเพิ่งดําเนินการเปลี่ยนแปลงกฎการจดทะเบียนเพื่อดึงดูดการเสนอขายหุ้น IPO มากขึ้น ส่วนแบ่งปริมาณการเสนอขายหุ้น IPO ในยุโรปของลอนดอนลดลงเหลือ 1% ในปีถึงกลางเดือนพฤษภาคมจาก 28% ในช่วงเวลาเดียวกันในปี 2021

Peel Hunt ได้สังเกตการประชุมนักลงทุนในระยะเริ่มต้นและการอภิปรายที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้น IPO ซึ่งบ่งบอกถึงแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้นสําหรับตลาดสหราชอาณาจักร Fidelity International ยังมองเห็นวัฏจักรที่ดีหากแรงงานสามารถสร้างการเชื่อมโยงทางการค้าของสหภาพยุโรปและกระตุ้นการใช้จ่ายทางธุรกิจได้ Fidelity ยังคงมีมุมมองที่เป็นกลางเกี่ยวกับสหราชอาณาจักร แต่กองทุนบางแห่งกําลังเพิ่มความเสี่ยง การจัดการพอร์ตโฟลิโอของ NinetyOne ตั้งข้อสังเกตว่าบริษัทในสหราชอาณาจักรกําลังเตรียมโครงการลงทุนที่ล่าช้าในช่วงที่พรรคอนุรักษ์นิยมดํารงตําแหน่ง

ความกังวลยังคงเกี่ยวกับการเงินสาธารณะของสหราชอาณาจักร โดยเงินกู้ของรัฐใกล้ถึง 100% ของผลผลิตทางเศรษฐกิจ ความวุ่นวายในตลาดที่เกิดจากงบประมาณขนาดเล็กของอดีตนายกรัฐมนตรีอนุรักษ์นิยม Liz Truss ยังคงเป็นความทรงจําล่าสุด แผนการของแรงงานในการดึงดูดการลงทุนภาคเอกชนในโครงสร้างพื้นฐานและที่อยู่อาศัยสามารถกระตุ้นการเติบโตได้มากกว่า 0.7% ที่คาดการณ์ไว้สําหรับปี 2024

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นเป็น 4.15% ตามหลังคู่หูของสหรัฐฯ และเยอรมัน ในขณะที่คาดว่าจะได้รับการสนับสนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษที่คาดการณ์ไว้ แต่สหราชอาณาจักรไม่ถือว่าเป็นสวรรค์ของตลาดตราสารหนี้ เว้นแต่แรงงานจะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในความรอบคอบทางการคลัง

แรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังเป็นปัจจัยสําหรับนักลงทุนเช่น BlueBay Asset Management ซึ่งลังเลที่จะเพิ่มความเสี่ยงในสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ การประเมินมูลค่าของดัชนี FTSE-100 ยังคงต่ํากว่าหุ้นสหรัฐฯ อย่างมีนัยสําคัญ ซึ่งบ่งชี้ถึงระดับความระมัดระวังในหมู่นักลงทุน

BNP Paribas มองว่าความสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทนในสหราชอาณาจักรอยู่ในเกณฑ์ดี แต่แนะนําว่าการคืนทุนให้กับภูมิภาคอาจต้องใช้เวลามากขึ้น

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน