Investing.com - ในสัปดาห์นี้ความขัดแย้งทางการค้ายังคงเป็นปัจจัยหลักที่ยึดครองแรงกระตุ้นในตลาดต่อไป แต่นอกเหนือจากนั้นผู้ลงทุนก็จะรอจับตาผลการเลือกตั้งสหภาพยุโรป การแต่งตั้งผู้นำทางการเมืองในสหราชอาณาจักร การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจโลก รวมถึงการประกาศผลประกอบการจากบริษัทสหรัฐฯ อีกหลายราย
สิ่งที่คุณควรทราบในสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้
1. ความขัดแย้งทางการค้ายังคงดำเนินต่อ
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะนัดพบเพื่อเจรจากับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายชินโสะ อาเบะ ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งอันเกิดจากจุดยืนทางการค้าที่แตกต่างกัน เนื่องจากทรัมป์ไม่พอใจที่ญี่ปุ่นมีภาวะเกินดุลการค้าอย่างมหาศาล และถ้าหากทั้งสองประเทศไม่สามารถสร้างข้อตกลงแบบทวิภาคีได้สำเร็จ สหรัฐฯ จะเตรียมพิจารณาขึ้นภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจำพวกยานยนต์
และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จีนได้วางแผนว่าจะขึ้นภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 6 หมื่นล้านเหรียญเพื่อตอบโต้เอาคืนสหรัฐฯ ที่ได้ทำการขึ้นภาษีศุลกากรสินค้าจีน ทำให้ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น และอาจส่งผลเป็นวงกว้างต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
2. ผลการเลือกตั้งสหภาพยุโรป (EU)
เมื่อวานนี้เป็นวันสุดท้ายในการเลือกตั้งสหภาพยุโรป และมีการคาดการณ์ว่าพรรคต่อต้านการรวมสหภาพยุโรปจะได้คะแนนเสียงมากพอสมควรในสามประเทศที่ใหญ่ที่สุดของฝั่งยูโรโซน ได้แก่ เยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี
“สำหรับตลาดแล้ว สิ่งที่ควรจับตาคือ ประการแรก หากพรรคต่อต้านการรวมสหภาพยุโรปมีคะแนนรวมเกิน 25% และประการที่สอง คือพรรคเหล่านี้จะสามารถร่วมงานกันได้หรือไม่
คณะผู้นำสหภาพยุโรปมีกำหนดการหารือ ณ กรุงบรัสเซลส์วันอังคารนี้ เพื่อเริ่มดำเนินการแต่งตั้งคณะผู้นำรุ่นใหม่สำหรับสถาบันทั้งหลายในสหภาพยุโรป อันได้แก่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, คณะกรรมาธิการ และประธานสภา
3. การแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งของนางเธเรซา เมย์
ขณะนี้การแข่งขันเพื่อเฟ้นหานายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรคนใหม่แทนนางเธเรซา เมย์ กำลังเข้มข้นยิ่งขึ้น โดยผู้สมัครทั้งแปดท่านต่างก็ให้คำมั่นว่า พวกเขาจะสามารถแก้ไขความล้มเหลวของเมย์ด้วยการนำพาสหราชอาณาจักรถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปได้ในที่สุด
เดิมทีเส้นตายครั้งแรกของ Brexit คือ 29 มีนาคม และได้มีการเลื่อนมาเรื่อย ๆ จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม เพื่อรอสังเกตการณ์ว่าจะมีการประนีประนอมใด ๆ เกิดขึ้นหรือไม่ ทั้งนี้การลาออกจากตำแหน่งของเมย์ทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่จากการเลือกตั้งทั่วไปครั้งถัดไปจะต้องการให้เกิด Brexit แบบไม่มีข้อตกลง
4. ข้อมูลทางเศรษฐกิจล่าสุด
จีนจะเผยดัชนี PMI ประจำเดือนพฤษภาคมอย่างเป็นทางการในวันศุกร์นี้ แม้จะมีความกังวลถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ก็ตาม
สหรัฐฯ เองก็จะรายงาน ดัชนีรายจ่ายผู้บริโภค และ ดัชนีชี้วัดอัตราเงินเฟ้อ ในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะทำให้ตลาดได้ทราบสถานะของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในขณะนี้ อีกทั้งอัตราการเติบโตของ GDP ในวันพฤหัสบดีนี้ และยังรวมไปถึง ดุลการค้า กับ ยอดรอขายบ้าน อีกด้วย
5. กำหนดการรายงานผลประกอบการบริษัทสหรัฐฯ
บริษัทผู้ค้าปลีกรายใหญ่จากสหรัฐฯ จำนวนมากมีกำหนดการรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ อันได้แก่ Costco (NASDAQ:COST), Dollar Tree (NASDAQ:DLTR), Gap (NYSE:GPS) และ Ulta Beauty (NASDAQ:ULTA) ที่จะออกมารายงานในวันพฤหัสบดีนี้
Abercrombie & Fitch (NYSE:ANF) และ Canada Goose (NYSE:GOOS) ก็มีกำหนดการรายงานในวันพุธนี้เช่นกัน
--เนื้อหาข่าวได้รับการสนับสนุนจากสำนักข่าวรอยเตอร์