ศาลฮ่องกงรับรองคําพิพากษาของเจ้าพ่อสื่อ

ศาลสูงสุดของฮ่องกงได้ปฏิเสธคําอุทธรณ์ของจิมมี่ ไล ผู้ประกอบการด้านสื่อและนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยอีกหกคน ความพยายามของกลุ่มที่จะคว่ําคําพิพากษาของพวกเขาสําหรับการเข้าร่วมการชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาตในเดือนสิงหาคม 2019 ถูกศาลอุทธรณ์ขั้นสุดท้าย (CFA) ยกฟ้องอย่างเป็นเอกฉันท์ในวันนี้

Lai วัย 76 ปี เป็นที่รู้จักจากการก่อตั้งหนังสือพิมพ์ Apple (NASDAQ:AAPL) Daily เพื่อประชาธิปไตย และจําเลยร่วมของเขา รวมถึง Martin Lee นักประชาธิปไตยรุ่นเก๋า ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมในการประท้วงเพื่อประชาธิปไตยในปี 2019 แม้ว่าก่อนหน้านี้ศาลล่างจะคว่ําคําพิพากษาในการจัดชุมนุม แต่ข้อหาเข้าร่วมขบวนโดยไม่ได้รับอนุญาตยังคงอยู่

การอุทธรณ์มีพื้นฐานมาจากข้อโต้แย้งของ "สัดส่วนการดําเนินงาน" ซึ่งเป็นแนวคิดที่ได้มาจากคําตัดสินที่ไม่ผูกพันสองครั้งของศาลฎีกาของสหราชอาณาจักร ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสมดุลระหว่างการตัดสินลงโทษและการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน

คดีดังกล่าวซึ่งรวมถึง David Neuberger อดีตหัวหน้าศาลฎีกาของสหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในผู้พิพากษาห้าคน ได้จุดประกายการถกเถียงเกี่ยวกับบทบาทของผู้พิพากษาต่างชาติในระบบตุลาการของฮ่องกง

การอภิปรายนี้ทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากการลาออกของผู้พิพากษาชาวอังกฤษสองคนจาก CFA Lawrence Collins และ Jonathan Sumption เมื่อสองเดือนก่อน โดย Sumption อ้างถึงความกังวลว่าฮ่องกงกําลังกลายเป็นรัฐเผด็จการและหลักนิติธรรมถูก "ประนีประนอมอย่างลึกซึ้ง"

กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่รัฐบาลปักกิ่งบังคับใช้ในปี 2563 หลังจากการประท้วงเพื่อประชาธิปไตยและการผ่านมาตรา 23 โดยสภานิติบัญญัติฮ่องกงในเดือนมีนาคม เป็นประเด็นที่ขัดแย้งและความกังวลของประชาคมระหว่างประเทศ

ไลถูกคุมขังเดี่ยวตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 และกําลังรับโทษจําคุกห้าปีเก้าเดือนหลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานละเมิดสัญญาเช่าที่เกี่ยวข้องกับหนังสือพิมพ์ที่เลิกใช้ไปแล้ว

นอกจากไลแล้ว อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติสามคน ได้แก่ ลี ชุก-ยาน "ผมยาว" เหลียง กวกฮุง และไซด์ โฮ ได้รับโทษจําคุกตั้งแต่ 8 ถึง 18 เดือน ในขณะที่มาร์ติน ลี ทนายความ มาร์กาเร็ต อึ้ง และนักการเมืองอัลเบิร์ต โฮ ถูกพักโทษ

สํานักงานความมั่นคงได้รายงานการจับกุมบุคคล 301 คนในข้อหาการกระทําที่ถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ โดยมีบุคคล 176 คนและ 5 บริษัทต้องเผชิญกับข้อกล่าวหา คดีนี้ยังคงเน้นย้ําถึงความตึงเครียดระหว่างขบวนการประชาธิปไตยของฮ่องกงกับภาระผูกพันทางกฎหมายของฮ่องกงภายใต้กรอบความมั่นคงแห่งชาติ

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน