โดย Gina Lee
Investing.com – กิจกรรมโรงงานในจีนเริ่มฟื้นตัวช้า ๆ ในเดือนพฤษภาคม 2022 ในขณะที่มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด19 ในหลายเมือง อย่างไรก็ตาม มาตรการบางอย่างยังคงส่งผลกระทบต่ออุปสงค์และการผลิต ทำให้เกิดความไม่แน่ใจต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่สอง
ข้อมูลจากสำนักสถิติแห่งชาติ (NBS) แสดงให้เห็นว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน อยู่ที่ 49.6 สูงกว่าการคาดการณ์ที่จัดทำโดย Investing.com ที่คาดการณ์ไว้ที่ 48 และสูงกว่าตัวเลขในเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ 47.4
แม้ว่าดัชนี PMI จะแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน แต่ก็ยังต่ำกว่าที่ระดับ 50 จุดซึ่งชี้ได้ถึงตัวเลขการเติบโตเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อสายงานการผลิตในประเทศเศรษฐกิจสำคัญอื่น ๆ ของเอเชีย โดยทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ต่างก็รายงานผลผลิตที่ลดลงเช่นกัน
“มันแสดงให้เห็นว่าผลกระทบของการระบาดของไวรัสโควิด19 ในเดือนพฤษภาคมยังไม่สิ้นสุดอย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มตกต่ำตั้งแต่ไตรมาสที่สองในปี 2020” ผาง หมิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Huaxing Securities กล่าวกับรอยเตอร์ส ผางกล่าวเสริมว่าตัวเลขโรงงานการผลิตกลางน้ำและปลายน้ำของจีนลดลงมากกว่าต้นน้ำ และบริษัทขนาดเล็กได้รับผลกระทบหนักกว่าบริษัทขนาดใหญ่
แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายข้อจำกัดเมื่อต้นเดือนในเมืองเซี่ยงไฮ้และศูนย์กลางการผลิตหลักอื่น ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นักลงทุนบางคนกล่าวว่าการผลิตที่กลับมาได้นั้นจะเป็นไปแบบช้า ๆ เพราะถูกจำกัดโดยปัจจัยที่การบริโภคภายในประเทศที่ซบเซาและอุปสงค์ทั่วโลกที่ชะลอตัว
แม้ว่ากิจกรรมต่าง ๆ จะเริ่มฟื้นตัวเมื่อมาตรการควบคุมโควิด-19 ผ่อนคลายลง แต่การฟื้นตัวก็มีแนวโน้มที่จะค่อยเป็นค่อยไป นักเศรษฐศาสตร์จาก Capital Economics Sheana Yue กล่าวกับรอยเตอร์ส
"แท้จริงแล้ว ยังคงมีสัญญาณของการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานในรายละเอียดของการสำรวจ เวลาการส่งมอบยาวขึ้นอีกในขณะที่บริษัทต่าง ๆ ขาดวัตุดิบคงคลัง และดำเนินการได้เร็วน้อยกว่าในเดือนเมษายน"
การระบาดครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด19 ในปี 2020 และมาตรการล็อกดาวน์ที่ตามมาส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจ ผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในจีนลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบ 2 ปีในเดือนเมษายน 2022 ด้วยราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นและเหตุการณ์ความวุ่นวายในห่วงโซ่อุปทานทำให้อัตรากำไรลดลง
ตัวเลขภาคบริการยังคงอ่อนตัว โดยตัวเลข ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) นอกภาคการผลิตของจีน ในเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 47.8 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าตัวเลข 41.9 จากเดือนเมษายน
เมื่อผู้บริโภคถูกล็อกดาวน์ ส่งผลให้ยอดค้าปลีกในเดือนเมษายนหดตัว 11.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งถือเป็นการหดตัวครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่มีนาคม 2020 บริการจัดเลี้ยงและการขายรถยนต์ได้รับผลกระทบเป็นพิเศษ และตัวเลขกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อกันยังคงหดตัว บ่งชี้ว่าแรงกดดันต่ออุตสาหกรรมบริการยังคงอยู่
จากความเร่งด่วนของนโยบายการเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ได้ย้ำถึงนโยบายการสนับสนุนในช่วงสัปดาห์ก่อน โดยกล่าวว่าจีนจะแสวงหาการเติบโตทางเศรษฐกิจในเชิงบวกเมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสที่สอง
รัฐบาลยังให้คำมั่นว่าจะขยายเวลาการเรียกเก็บภาษี เลื่อนการจ่ายประกันสังคมและการชำระคืนเงินกู้ ตลอดจนออกโครงการลงทุนใหม่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ