หลังจากที่ราคา Bitcoin ดิ่งหนัก ทรุดแตะ 2-months low ที่ 18,500 ดอลลาร์หรือราว 6.5 แสนบาทไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา พร้อมกับราคาที่ดิ่งลงไป -5% ในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง สร้างความตื่นตระหนกให้กับชาว Bitcoin และตลาดคริปโตในวงกว้าง
แต่หลังจากนั้นราคาก็ค่อยๆ ฟื้นตัวกลับขึ้นมาทีละน้อย จนกระทั่งช่วงเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาก็เริ่มเปิดคันเร่ง บิดจาก 19,300 ดอลลาร์ขึ้นมาสู่ 21,400 ดอลลาร์ในระยะเวลาเพียง 14 ชั่วโมงเท่านั้น
จากนั้นราคาก็รักษาระดับอยู่ที่เหนือ 21,000 จนปิดแท่งเทียนวันที่ 9 กันยายนด้วยราคาบวก 10.12% เป็นการบวกขึ้นมาครั้งที่แรงที่สุดในรอบ 192 วัน หรือเกือบ 7 เดือน หลังจากราคาบวก 14.49% ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์
คาดสัญญาณดอกเบี้ยสหรัฐฯ ดันราคา Bitcoin พุ่ง
โดยหลายแหล่งคาดว่าการบวกขึ้นมาของราคา Bitcoin ครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับสัญญาณของ Fed หรือธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่อาจจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่า 3.5% ในปี 2023 และจะไม่ต่ำกว่า 3% จนกว่าจะหลังปี 2024 ผ่าน ‘dot plot‘ การวิเคราะห์ความน่าจะเป็นของนโยบายอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
ประกอบกับประธาน Fed สำนักงานชิคาโก้ ก็ได้ออกมาพูดในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่ารายงานสภาวะเงินเฟ้อที่จะออกมาสัปดาห์หน้า ก็จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยธนาคารสามารถคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในอนาคตได้ ซึ่งเขาก็คาดว่าอาจจะอยู่ในตัวเลข 3.5% – 4%
เช่นเดียวกับดัชนี Dow Jones, S&P 500 และ NASDAQ ที่ราคาก็บวกขึ้นมา 1.1%, 1.5% และ 2.1% ตามลำดับ