โดย Gina Lee
Investing.com - ในวันนี้จีนได้รายงานผลกำไรจากภาคอุตสาหกรรมเมื่อเทียบปีต่อปีของเดือนที่แล้วที่ทรุดตัวลงอย่างฉับพลัน ขณะที่สหรัฐก็รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ที่แล้วที่พุ่งสูงถึง 3.28 ราย และสภาสหรัฐก็เตรียมผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ 2.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในวันนี้
อ้างอิงจากตัวเลขขององค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำวันที่ 26 มีนาคม จำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้วทั่วโลกอยู่ที่ 465,915 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 21,031 ราย
จีน
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า ผลกำไรภาคอุตสาหกรรมจากเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์เมื่อเทียบปีต่อปีแล้วทรุดตัวลงถึง 38.3% ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จีนสั่งปิดประเทศเพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19
และกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ประกาศปฏิเสธการเข้าเมืองของชาวต่างชาติจากทุกประเทศตั้งแต่วันเสาร์เป็นต้นไปเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อ โดยอ้างอิงจากแถลงการณ์เมื่อวานนี้ ชาวต่างชาติที่ถือเอกสารการตรวจลงตราหรือใบอนุญาตการพำนักอาศัยอย่างถูกกฎหมาย บัตรเดินทางสำหรับนักธุรกิจเอเปค (APEC) และการตรวจลงตราเมื่อเดินทางมาถึงด่านตรวจลงตราจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศ
นโยบายการแวะพักเครื่องโดยไม่ต้องตรวจลงตราในบางเมืองของจีนก็จะถูกยกเลิกด้วยเช่นกัน
แต่ชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศจีนเพื่อ "ดำเนินการทางเศรษฐกิจ การค้า วิทยาศาสตร์ หรือเทคโนโลยีที่มีความจำเป็น หรือมีความจำเป็นเร่งด่วนเกี่ยวกับกิจการด้านมนุษยธรรม" ยังคงสามารถยื่นขอการตรวจลงตราเพื่อเข้าประเทศจีนได้
ฮ่องกง
ผู้นำฮ่องกง แคร์รี ลัม ได้นัดประชุมกับคณะที่ปรึกษาระดับสูงเพื่อหารือกันเกี่ยวกับมาตรการรับมือที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อสูงขึ้นเรื่อย ๆ
อินเดีย
รัฐมนตรีทางการเงินของอินเดีย Nirmala Sitharaman ได้ประกาศใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีมูลค่า 1.7 ล้านล้านรูปีเมื่อวานนี้ หลังจากการเริ่มต้นมาตรการปิดประเทศเป็นเวลา 21 วัน
นโยบายดังกล่าวจะประกอบไปด้วยมาตรการเยียวยาครัวเรือนต่าง ๆ ที่มีรายได้ต่ำ ผ่านแผนการแจกจ่ายอาหารและโอนเงินสดโดยตรง
สหรัฐ
สหรัฐได้ประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ที่แล้วที่พุ่งสูงถึง 3.28 ล้านราย สูงกว่าผลคาดการณ์จาก Investing.com ถึงสามเท่า
ในวันนี้คาดว่าสภาสหรัฐจะผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 2.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และเดินหน้าเพื่อรอการอนุมัติจากประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์