เมื่อวันพุธ Goldman Sachs ยังคงให้คะแนนซื้อสําหรับ Avidity Biosciences (แนสแด็ก:RNA) โดยมีราคาเป้าหมายคงที่ที่ 59.00 ดอลลาร์ บริษัทมุ่งเน้นไปที่การดําเนินการเชิงพาณิชย์ของบริษัทในขณะที่เตรียมพร้อมสําหรับการเปิดตัวการรักษาโรคซึมเศร้าที่สําคัญ (MDD) ที่กําลังจะมาถึง Avidity รายงานรายได้ในไตรมาสที่สามของปี 2024 ที่ 175.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเล็กน้อยใน Goldman Sachshe FactSet ฉันทามติที่ 172.3 ล้านดอลลาร์ และสอดคล้องกับการประมาณการของ Goldman Sachs ที่ 175.2 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ บริษัทยังปรับคําแนะนํารายได้ทั้งปีสําหรับปีงบประมาณ 2024 เป็นช่วง 665-685 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 650-680 ล้านดอลลาร์
Avidity Biosciences ได้ขยายกําลังขายเป็นตัวแทน 150 คนในไตรมาสที่สามของปี 2024 ซึ่งสอดคล้องกับความคาดหวังและตั้งเป้าที่จะขยายการเข้าถึงในหมู่แพทย์ปฐมภูมิ การเคลื่อนไหวนี้เพื่อสนับสนุนโอกาสของภาวะซึมเศร้าแบบไบโพลาร์ (BPD) บริษัทยังมี sGoldman Sachsor Caplyta ซึ่งเป็นการรักษา BPD และ MDD โดยคาดการณ์ยอดขายมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ในทศวรรษหน้า การประมาณการนี้สูงกว่าการคาดการณ์ของ GoldmanGoldman Sachsier ที่ 3.3 พันล้านดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกา และสูงกว่าการประมาณการยอดขายสูงสุดของ Vraylar ซึ่งคาดว่าจะสูงถึง 4.7 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 ตามข้อมูลของ Visible Alpha
Goldman Sachs คาดการณ์ว่า Avidity จะเปลี่ยนไปทํากําไรได้ภายในปี 2026 อย่างเร็วที่สุด โดยพิจารณาจาก Goldman Sachsh ที่สอดคล้องกันเทียบกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการเตรียมการเปิดตัว MDD บริษัทมีแผนที่จะยื่นใบสมัครยาใหม่เพิ่มเติม (sNDA) สําหรับ MDD ภายในสิ้นปี 2024 ศักยภาพทางการค้าของ Caplyta ในตลาด MDD เป็นจุดโฟกัสสําหรับนักลงทุน โดย Goldman Sachs ประเมินยอดขายของ Goldman Sachs ที่ 1.6 พันล้านดอลลาร์
หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ โดยซื้อขายเพิ่มขึ้น 12% ในวันพุธ ซึ่งดีกว่าดัชนี XBI ซึ่งยังคงไม่เปลี่ยนแปลง การเพิ่มขึ้นนี้เกิดจากการคาดการณ์ยอดขายในแง่ดีสําหรับ Caplyta จากการพัฒนาเหล่านี้ Goldman Sachs ได้ย้ําการจัดอันดับถือหุ้นไว้และเพิ่มราคาเป้าหมาย 12 เดือนสําหรับ Avidity Biosciences เป็น 79 ดอลลาร์จากเป้าหมายก่อนหน้านี้ที่ 74 ดอลลาร์ การปรับเปลี่ยนนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานในระยะสั้นที่สมดุลกับยอดขายสูงสุดที่คาดว่าจะสูงขึ้นสําหรับ Caplyta
ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ Avidity Biosciences มีความก้าวหน้าอย่างมากในการทดลองทางคลินิก บริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ได้ริเริ่มกลุ่มตัวบ่งชี้ทางชีวภาพสําหรับการทดลอง FORTITUDE ระยะที่ 1/2 โดยประเมิน delpacibart braxlosiran ในบุคคลที่มีกล้ามเนื้อผิดปกติ facioscapulohumeral Goldman Sachs สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ยังยกเลิกการระงับทางคลินิกบางส่วนของผู้สมัครยาของ Avidity อย่าง del-desiran ทําให้สามารถดําเนินการทดลอง HARBOR ระยะที่ 3 ได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ Avidity Biosciences ยังได้ประกาศการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจัดการโดย Leerink Partners และ TD Cowen เพื่อสนับสนุนโปรแกรมทางคลินิกและพัฒนาการวิจัยและการซื้อ Goldman Sachs และ TD Cowen ได้ย้ําการจัดอันดับการซื้อหุ้นของ Avidity โดยเน้นย้ําถึงศักยภาพของยา del-brax และ del-desiran โดยมียอดขายสูงสุดที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.7 พันล้านดอลลาร์และ 4.0 พันล้านดอลลาร์ตามลําดับ
ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro
Goldman Sachsrom InvestingPro ให้ความกระจ่างเพิ่มเติมเกี่ยวกับฐานะทางการเงินและผลการดําเนินงานของตลาดของ Avidity Biosciences มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัทอยู่ที่ 5.07 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในศักยภาพของบริษัท แม้จะมีแนวโน้มในแง่ดีที่นําเสนอในบทความ แต่สิ่งสําคัญคือต้องทราบว่าปัจจุบัน Avidity Biosciences ไม่ทํากําไร โดยมีอัตราส่วน P/E ติดลบที่ -20.05 ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 2 ปี 2024
อย่างไรก็ตาม สอดคล้องกับจุดยืนเชิงบวกของ Goldman Sachs InvestingPro Tips เน้นย้ําว่า Avidity Biosciences ถือเงินสดมากกว่าหนี้ในงบดุล ซึ่งบ่งชี้ถึงสถานะสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง เบาะทางการเงินนี้อาจมีความสําคัญเนื่องจากบริษัทเตรียมพร้อมสําหรับการเปิดตัวการรักษา MDD และขยายกําลังขาย
หุ้นของบริษัทแสดงให้เห็นถึงผลการดําเนินงานที่โดดเด่น โดยมีผลตอบแทนรวมของราคา 775.64% ในปีที่ผ่านมา สิ่งนี้สอดคล้องกับการกล่าวถึงการเพิ่มขึ้นของหุ้น 12% เมื่อเร็ว ๆ นี้และมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าของดัชนี XBI
สําหรับนักลงทุนที่ต้องการการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมมากขึ้น InvestingPro ขอเสนอเคล็ดลับเพิ่มเติม 10 ข้อสําหรับ Avidity Biosciences ซึ่งให้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและสถานะทางการตลาดของบริษัท
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน