วอกกิ้ง สหราชอาณาจักร - ลินเด้ (แนสแด็ก:LIN) ซึ่งเป็นบริษัทก๊าซอุตสาหกรรมระดับโลกในอินเดีย ได้ประกาศการขยายกลยุทธ์ในอินเดียโดยการลงนามในข้อตกลงอินเดียซื้อหน่วยแยกอากาศ (ASU) สองหน่วย และเพื่อเพิ่มการจัดหาก๊าซอุตสาหกรรมให้กับ Tata Steel Limited ในเมืองโอริสสา ประเทศอินเดีย การเคลื่อนไหวนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนการขยายกําลังการผลิตของ Tata Steel ที่คอมเพล็กซ์อุตสาหกรรม Kalinganagar
การเข้าซื้อกิจการ ASU ขนาดใหญ่สองแห่งซึ่งกําลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างคาดว่าจะเพิ่มกําลังการผลิตในสถานที่ของลินเด้มากกว่าสองเท่าเมื่อการถ่ายโอนเสร็จสิ้นในปี 2025 ลินเด้ยังได้ทําข้อตกลงระยะยาวกับ Tata Steel สําหรับการจัดหาออกซิเจน ไนโตรเจน และอาร์กอน ซึ่งจําเป็นสําหรับกระบวนการผลิตเหล็ก
เพื่อให้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของลินเด้ต่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทได้จัดทําข้อตกลงสําหรับการจัดหาพลังงานหมุนเวียนให้กับโรงงาน ความคิดริเริ่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายที่กว้างขึ้นของลินเด้ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ขอบเขต 2 ภายในปี 2035
Moloy Banerjee ประธานอาเซียนและเอเชียใต้ของ Linde เน้นย้ําถึงความสําคัญของข้อตกลงดังกล่าว โดยระบุว่า "ข้อตกลงใหม่เพื่อสนับสนุนการขยายกําลังการผลิตครั้งใหญ่ของ Tata Steel ต่อยอดจากความสัมพันธ์ระยะยาวที่มีอยู่ของเรา และเสริมความแข็งแกร่งให้กับตําแหน่งของเราในฐานะซัพพลายเออร์ก๊าซอุตสาหกรรมที่สําคัญให้กับอุตสาหกรรมเหล็ก" Banerjee เน้นย้ําว่าโครงการของอินเดียสอดคล้องกับเกณฑ์การลงทุนของลินเด้ และคาดว่าจะมีส่วนช่วยในการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัทในขณะที่เพิ่มความหนาแน่นของเครือข่ายในเขตอุตสาหกรรมที่สําคัญของอินเดีย
ลินเด้มียอดขาย 33 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 ให้บริการตลาดปลายทางที่หลากหลาย รวมถึงเคมีภัณฑ์และพลังงาน อาหารและเครื่องดื่ม อิเล็กทรอนิกส์ การดูแลสุขภาพ การผลิต และโลหะและเหมืองแร่ ก๊าซและเทคโนโลยีอุตสาหกรรมของบริษัทเป็นส่วนสําคัญในการใช้งาน เช่น การผลิตไฮโดรเจนสะอาด ระบบดักจับคาร์บอน ออกซิเจนทางการแพทย์ และก๊าซที่มีความบริสุทธิ์สูงสําหรับการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โซลูชันการแปรรูปก๊าซของลินเด้ยังสนับสนุนการขยายลูกค้า การปรับปรุงประสิทธิภาพ และการลดการปล่อยมลพิษ
ข้อมูลในบทความนี้อ้างอิงจากแถลงการณ์ข่าวประชาสัมพันธ์
ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ ลินเด้ยักษ์ใหญ่ด้านก๊าซอุตสาหกรรมมีความก้าวหน้าอย่างมาก บริษัทรายงานกําไรต่อหุ้น (EPS) ในไตรมาสที่สองเป็นประวัติการณ์ที่ 3.85 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าประมาณการจากบริษัทการเงินต่างๆ Deutsche Bank, BMO ตลาดทุน และ JPMorgan ต่างก็เพิ่มเป้าหมายราคาสําหรับ Linde ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในวิถีการเติบโตของบริษัท ฝ่ายบริหารของลินเด้ยังได้เน้นย้ําถึงสัญญาไฮโดรเจนสะอาดใหม่ของบริษัทกับ Dow ซึ่งบ่งชี้ถึงศักยภาพในการขยายตัวเมื่อตลาดพัฒนาขึ้น
แม้จะมีสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคที่ท้าทาย แต่ลินเด้คาดว่าจะรักษาวิถีการเติบโตไว้ โดย BMO Capital คาดการณ์ว่ากําไรต่อหุ้น (EPS) จะเพิ่มขึ้น 9% และ 10% สําหรับปี 20JPMorgan025 ตามลําดับ บันทึกของนักวิเคราะห์จาก Deutsche Bank และ JPMorgan ยังกล่าวถึงศักยภาพของลินเด้ในการฟื้นตัวของปริมาณว่าเป็นปัจจัยสําคัญสําหรับการเติบโตในอนาคตของบริษัท
นอกเหนือจากการพัฒนาเหล่านี้แล้ว การประชุมสามัญรายปีของลินเด้ยังอนุมัติค่าตอบแทนผู้บริหาร การเลือกตั้งกรรมการ และการให้สัตยาบัน PricewaterhouseCoopers เป็นผู้สอบบัญชีอิสระ สําหรับปี 2024 คําแนะนํา EPS ของลินเด้เต็มอินเดียอยู่ระหว่าง 15.40 ถึง 15.60 ดอลลาร์ การพัฒนาล่าสุดเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงตําแหน่งเชิงกลยุทธ์และวินัยทางการเงินของบริษัทในตลาดก๊าซอุตสาหกรรม
ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro
การขยายตัวเชิงกลยุทธ์ของลินเด้ในอินเดียสอดคล้องกับตําแหน่งในฐานะผู้เล่นที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมสารเคมี ตามที่เน้นโดย InvestingPro Tips การย้ายของบริษัทในการซื้อหน่วยแยกอากาศสองหน่วยและเพิ่มอุปทานให้กับ Tata Steel แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของอินเดียในตลาดหลัก
จากข้อมูลของ InvestingPro รายได้ของลินเด้ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 2 ปี 2024 อยู่ที่ 32.82 พันล้านดอลลาร์ โดยมีอัตรากําไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งที่ 47.56% ความแข็งแกร่งทางการเงินนี้สนับสนุนความสามารถของบริษัทในการขยายธุรกิจที่สําคัญเช่นเดียวกับในอินเดีย
InvestingPro Tips ยังเปิดเผยด้วยว่า Linde ได้เพิ่มเงินปันผลเป็นเวลา 32 ปีติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ถึงประวัติที่แข็งแกร่งในการคืนมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น การเติบโตของเงินปันผลที่สม่ําเสมอนี้ควบคู่ไปกับการขยายกลยุทธ์ของบริษัทอาจดึงดูดนักลงทุนระยะยาว
การมุ่งเน้นของบริษัทในความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในโครงการอินเดียสอดคล้องกับสุขภาพทางการเงินโดยรวม ข้อมูลของ InvestingPro แสดงให้เห็นว่า EBITDA อยู่ที่ $1EBITDA llion ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 2 ปี 2024 โดยมี EBITDA เติบโต 8.66% ผลการดําเนินงานทางการเงินนี้ช่วยให้ลินเด้มีทรัพยากรในการลงทุนในโครงการริเริ่มด้านพลังงานหมุนเวียนและสนับสนุนเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 2
เป็นที่น่าสังเกตว่า InvestingPro ระบุเคล็ดลับเพิ่มเติม 12 ข้อสําหรับลินเด้ ซึ่งให้นักลงทุนมีมุมมองที่ครอบคลุมเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและสถานะทางการตลาดของบริษัท ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้มีประโยชน์สําหรับผู้ที่พิจารณาลงทุนในลินเด้ เนื่องจากยังคงขยายธุรกิจไปทั่วโลกและความพยายามด้านความยั่งยืน
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน