บอสตัน - Wayfair Inc. (นิวยอร์ก: W) บริษัทอีคอมเมิร์ซที่มีชื่อเสียงสําหรับสินค้าภายในบ้าน ประสบความสําเร็จในการปิดการเสนอขายหุ้นกู้อาวุโสมูลค่า 800 ล้านดอลลาร์ ธนบัตรซึ่งมีอัตราดอกเบี้ย 7.250% มีกําหนดครบกําหนดในวันที่ 31 ตุลาคม 2029 พวกเขาได้รับการค้ําประกันอย่างเต็มที่และไม่มีเงื่อนไขจาก Wayfair และบริษัทในเครือในประเทศบางแห่ง
บริษัทวางแผนที่จะจัดสรรรายได้สุทธิจากการเสนอขายครั้งนี้ พร้อมกับเงินสดที่มีอยู่ เพื่อชําระคืนหุ้นกู้อาวุโสแปลงสภาพที่มีอยู่บางส่วนและเพื่อวัตถุประสงค์ทั่วไปขององค์กร Kate Gulliver CFO ของ Wayfair เน้นย้ําถึงวินัยด้านต้นทุนของบริษัทและแสดงความมั่นใจในกลยุทธ์ทางการเงิน โดยเน้นย้ําถึงเป้าหมายในการปรับปรุงกระแสเงินสดและจัดการกับวันครบกําหนดที่กําลังจะมาถึง
การเสนอขายนี้มุ่งเป้าไปที่ผู้ซื้อสถาบันที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและนอกสหรัฐอเมริกา บุคคลตามกฎข้อ 144A และข้อบังคับ S ภายใต้พระราชบัญญัติหลักทรัพย์ ตั๋วและค้ําประกันเหล่านี้ไม่ได้จดทะเบียนภายใต้พระราชบัญญัติหลักทรัพย์ปี 1933 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม และไม่สามารถขายได้สหรัฐอเมริกาหากไม่มีการจดทะเบียนหรือได้รับการยกเว้นจากข้อกําหนดการจดทะเบียน
Wayfair ซึ่งมีสํานักงานใหญ่ในบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ รายงานรายได้สุทธิ 11.9 พันล้านดอลลาร์สําหรับสิบสองเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2024 บริษัทดําเนินธุรกิจแบรนด์ในเครือ ได้แก่ Wayfair, AllModern, Birch Lane, Joss & Main, Perigold และ Wayfair Professional ซึ่งตอบสนองความต้องการด้านการตกแต่งบ้านที่หลากหลาย
การเคลื่อนไหวทางการเงินของ Wayfair นี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การจัดการเงินทุนที่กว้างขึ้น แถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้าของบริษัทบ่งชี้ถึงการมุ่งเน้นไปที่การลดเลเวอเรจและการจัดสรรเงินทุนเพื่อสนับสนุนการเติบโตและตําแหน่งการแข่งขันในตลาด อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระวังเกี่ยวกับความเสี่ยงโดยธรรมชาติ เช่น สภาวะตลาดและการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อาจส่งผลกระทบต่อผลการดําเนินงานของบริษัท
ข้อมูลในบทความนี้อ้างอิงจากแถลงการณ์ข่าวประชาสัมพันธ์จาก Wayfair Inc.
ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ Wayfair ได้เห็นการพัฒนาทางการเงินที่สําคัญและการปรับเปลี่ยนของนักวิเคราะห์ Loop Capital ได้เพิ่มราคาเป้าหมายสําหรับ Wayfair จาก 45 ดอลลาร์เป็น 55 ดอลลาร์ โดยคงเรตติ้งไว้ การปรับเปลี่ยนนี้เพื่อตอบสนองต่ออัตราดอกเบี้ยที่ลดลงที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งอาจส่งผลดีต่อยอดขายที่เกี่ยวข้องกับบ้านและนําไปสู่การเพิ่มขึ้นของรายได้ของ Wayfair บริษัทยังคาดหวังว่า Wayfair จะควบคุมต้นทุนค่าโสหุ้ยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนําไปสู่การเพิ่มขึ้นของการคาดการณ์ EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วสําหรับปีปัจจุบัน
Wayfair ได้รับเงินกู้ระยะยาวมูลค่า 800 ล้านดอลลาร์ในอัตราดอกเบี้ย 7.25% วางแผนที่จะใช้หนี้ที่มีต้นทุนสูงขึ้นนี้เพื่อชําระตั๋วแปลงสภาพที่ครบกําหนดในปลายปี 2025 การย้ายครั้งนี้คาดว่าจะเพิ่มค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยประจําปีประมาณ 52 ล้านดอลลาร์ บริษัทยังประกาศแผนการเสนอขายหุ้นกู้อาวุโสที่มีหลักประกันมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ครบกําหนดในปี 2029 โดยตั้งใจที่จะใช้เงินที่ได้เพื่อชําระคืนตั๋วเงินอาวุโสแปลงสภาพที่มีอยู่และเพื่อวัตถุประสงค์ทั่วไปขององค์กร
Wayfair รายงานรายได้สุทธิ 11.9 พันล้านดอลลาร์สําหรับสิบสองเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2024 แม้จะมีรายได้ลดลง 1.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี EBITDA ไตรมาสที่ 2 ปี 2024 แต่ Wayfair รายงานไตรมาสที่ดีที่สุดของ EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วและกระแสเงินสดอิสระในรอบสามปี บริษัทวิเคราะห์หลายแห่งได้ปรับมุมมองสําหรับ Wayfair Mizuho ยืนยันการจัดอันดับ Outperform อีกครั้ง ในขณะที่ Argus ปรับลดอันดับหุ้นเป็น Hold โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงและยอดขายบ้านที่ลดลง RBC ตลาดทุน, ไพเปอร์ แซนด์เลอร์ และหลักทรัพย์ทรูอิสต์ ล้วนลดราคาเป้าหมายของ Wayfair ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ท้าทาย
ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro
การเสนอขายตั๋วเงินอาวุโสที่มีหลักประกันมูลค่า 800 ล้านดอลลาร์ล่าสุดของ Wayfair สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางการเงิน ดังที่สะท้อนให้เห็นในข้อมูล InvestingPro ล่าสุด มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัทอยู่ที่ 7.02 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ถึงการมีอยู่อย่างมีนัยสําคัญในภาคสินค้าภายในบ้านอีคอมเมิร์ซ
เคล็ดลับ InvestingPro เน้นย้ําว่าการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นของ Wayfair ค่อนข้างผันผวน ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการซ้อมรบทางการเงินอย่างต่อเนื่องของบริษัทและสภาวะตลาด ความผันผวนนี้เห็นได้ชัดในผลการดําเนินงานล่าสุดของบริษัท โดยมีผลตอบแทนที่แข็งแกร่ง 32.18% ในเดือนที่แล้ว แม้ว่าจะลดลง 8.72% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน
การมุ่งเน้นของบริษัทในการปรับปรุงกระแสเงินสด ตามที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Kate Gulliver กล่าวไว้เป็นสิ่งสําคัญ เนื่องจากข้อมูลของ InvestingPro แสดงให้เห็นว่าภาระผูกพันระยะสั้นเกินสินทรัพย์สภาพคล่อง กลยุทธ์ทางการเงินนี้มีความสําคัญอย่างยิ่ง เนื่องจาก Wayfair ไม่ได้ทํากําไรในปัจจุบัน โดยมีอัตราส่วน P/E ติดลบที่ -12.65 ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 2 ปี 2024
อย่างไรก็ตาม มีศักยภาพในการปรับปรุง เคล็ดลับของ InvestingPro ชี้ให้เห็นว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทจะทํากําไรได้ในปีนี้ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเชิงบวกสําหรับนักลงทุนที่พิจารณาถึงการเคลื่อนไหวทางการเงินล่าสุดของ Wayfair
สําหรับผู้อ่านที่สนใจในการวิเคราะห์เชิงลึก InvestingPro ขอเสนอเคล็ดลับเพิ่มเติม 14 ข้อสําหรับ Wayfair โดยให้มุมมองที่ครอบคลุมเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและสถานะทางการตลาดของบริษัท
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน