จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันรายงานผลการรักษามะเร็งมัยอีโลมาที่มีแนวโน้ม

ริโอเดจาเนโร - จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (นิวยอร์ก:JNJ) ได้เผยแพร่ผลลัพธ์ที่อัปเดตจากการศึกษา RedirecTT-1 ระยะที่ 1b ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่มีแนวโน้มและโปรไฟล์ความปลอดภัยที่จัดการได้สําหรับการบําบัดด้วยแอนติบอดีแบบผสมแบบสองชนิดในการรักษามะเร็งมัยอีโลมาหลายชนิดที่กําเริบหรือดื้อยา การค้นพบเหล่านี้ถูกนําเสนอในการประชุมรายปีของสมาคมมะเร็งมัยอีโลมานานาชาติ

การศึกษาได้ประเมินการรวมกันของ TALVEY® (talquetamab-tgvs) และ TECVAYLI® (teclistamab-cqyv) ในผู้ป่วยที่สัมผัสสามชั้น รวมถึงผู้ที่เป็นโรคนอกไขกระดูกซึ่งดื้อต่อการรักษามาตรฐาน อัตราการตอบสนองโดยรวม (ORR) อยู่ที่ 79.5 เปอร์เซ็นต์ โดยมีอัตราการตอบสนองที่สมบูรณ์ 52.3 เปอร์เซ็นต์ และอัตราการรอดชีวิตที่ปราศจากความก้าวหน้า 18 เดือน ที่ 69.8 เปอร์เซ็นต์หลังจากการติดตามผลเฉลี่ย 18.2 เดือน

การวิเคราะห์กลุ่มย่อยสําหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคนอกไขกระดูกแสดงให้เห็นว่า ORR อยู่ที่ 61.1 เปอร์เซ็นต์และระยะเวลา 18 เดือนของการตอบสนองที่ 81.8 เปอร์เซ็นต์ โปรไฟล์ความปลอดภัยของการบําบัดแบบผสมผสานนั้นสอดคล้องกับโปรไฟล์ของแต่ละสารเป็นยาเดี่ยว โดยมีอุบัติการณ์สะสมของการติดเชื้อระดับ 3/4 สูงขึ้นเล็กน้อย แต่ทรงตัวตั้งแต่หกเดือน

การบําบัดแบบผสมผสานเป็นทางเลือกนอกชั้นวางสําหรับผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งหลายชนิดของมะเร็งหลายชนิดขั้นสูง ซึ่งอาจตอบสนองความต้องการทางการแพทย์ที่สําคัญที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ผลลัพธ์สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการรวมกันของ TALVEY กับการรักษาที่มีประสิทธิภาพอื่นๆ เนื่องจากข้อมูลเพิ่มเติมจากการศึกษา TRIMM-2 จะถูกนําเสนอในการประชุม IMS ด้วย

Multiple myeloma เป็นมะเร็งเม็ดเลือดที่ส่งผลต่อเซลล์พลาสมาในไขกระดูกและถือว่ารักษาไม่หาย เป็นมะเร็งเม็ดเลือดที่พบบ่อยเป็นอันดับสองของโลก โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 35,000 รายในสหรัฐอเมริกาในปี 2024 ก่อนหน้านี้ TALVEY® และ TECVAYLI® ได้รับการอนุมัติจาก FDA ว่าเป็นยาเดี่ยวสําหรับการรักษาผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่มี RRMM ซึ่งได้รับการบําบัดอย่างน้อยสี่บรรทัดก่อนหน้านี้

บทความนี้อ้างอิงจากแถลงการณ์ข่าวประชาสัมพันธ์และมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักลงทุนได้รับบทสรุปที่กระชับของข้อเท็จจริงที่เป็นข่าว

ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ จอห์นสันแอนด์จอห์นสันรายงานผลลัพธ์ที่น่ายินดีจากการศึกษาระยะที่ 1b TRIMM-2 สําหรับผู้ป่วยที่มีมะเร็งมัยอีโลมาหลายชนิดที่กําเริบหรือดื้อยา การรักษาแบบผสมผสานแสดงให้เห็นถึงอัตราการตอบสนองโดยรวม 82 เปอร์เซ็นต์ ในอีกการพัฒนาหนึ่ง Red River Talc LLC ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Johnson & Johnson ได้ยื่นฟ้องล้มละลายตามบทที่ 11 ที่บรรจุไว้ล่วงหน้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การระงับข้อพิพาทมูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์เพื่อแก้ไขข้อเรียกร้องมะเร็งรังไข่ที่กําลังดําเนินอยู่ที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินคดีเกี่ยวกับแป้งโรยตัวเครื่องสําอางในสหรัฐอเมริกา

ในข่าวทางกฎหมายผู้พิพากษาโอเรกอนสั่งให้มีการพิจารณาคดีใหม่ในคดีที่เกี่ยวข้องกับคําตัดสินมูลค่า 260 ล้านดอลลาร์ต่อจอห์นสันแอนด์จอห์นสันเกี่ยวกับการอ้างว่าแป้งโรยตัวทําให้เกิดมะเร็งเยื่อหุ้มสมอง ในด้านการเงิน Goldman Sachs ย้ําการจัดอันดับซื้อหุ้นของ CG Oncology โดยอ้างถึงความเสี่ยงด้านลบที่จํากัดหลังจากข้อมูลใหม่ที่นําเสนอโดย Johnson & Johnson

บริษัทยังประกาศผลการค้นพบที่สําคัญจากการศึกษา SKIPPirr ระยะที่ 2 ซึ่งบ่งชี้ถึงการลดลงอย่างมากของปฏิกิริยาที่เกี่ยวข้องกับการแช่ในผู้ป่วยมะเร็งปอดที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็กขั้นสูงที่ได้รับการรักษาด้วย RYBREVANT® สุดท้าย Johnson & Johnson ประกาศการเกษียณอายุของ DS Davis จากคณะกรรมการบริหาร และการเกษียณอายุของรองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล Dr. Peter M. Fasolo โดยมี Kristen Mulholland ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สืบทอดตําแหน่ง นี่คือการพัฒนาล่าสุดบางส่วนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน

ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro

ผลการทดลองทางคลินิกล่าสุดของ Johnson & Johnson สําหรับการรักษาโรคมะเร็งหลายชนิดสอดคล้องกับตําแหน่งที่แข็งแกร่งของบริษัทในอุตสาหกรรมยา จากข้อมูลของ InvestingPro J&J มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดจํานวนมากที่ 388.51 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเน้นย้ําถึงการมีอยู่อย่างมีนัยสําคัญในภาคการดูแลสุขภาพ

การมุ่งเน้นของบริษัทในการบําบัดที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น TALVEY® และ J&JVAYLI® สะท้อนให้เห็นในผลการดําเนินงานทางการเงินที่มั่นคง J&J รายงานรายได้ 86.58 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา โดยมีการเติบโตของรายได้ที่ดี 5.13% การเติบโตนี้ J&J เป็นที่น่าสังเกตเป็นพิเศษเมื่อพิจารณาจากขนาดและวุฒิภาวะของบริษัทในตลาด

เคล็ดลับ InvestingPro เน้นย้ําถึงความมั่นคงทางการเงินของ J&J และนโยบายที่เป็นมิตรกับผู้ถือหุ้น บริษัทได้เพิ่มเงินปันผลเป็นเวลา 53 ปีติดต่อกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นระยะยาวในการสร้างมูลค่า rJ&J ให้กับผู้ถือหุ้น สิ่งนี้ได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากอัตราผลตอบแทนเงินปันผลในปัจจุบันที่ 3.07% ทําให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสําหรับนักลงทุนที่มุ่งเน้นรายได้

นอกจากนี้ หุ้นของ J&J ซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ J&Jich อาจบ่งบอกถึงความเชื่อมั่นของตลาดในการพัฒนาล่าสุดของบริษัทและกลยุทธ์ทางธุรกิจโดยรวม อัตราส่วน P/E ของบริษัทที่ 20.42 (ปรับในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา) บ่งชี้ว่านักลงทุนยินดีจ่ายเบี้ยประกันภัยสําหรับรายได้ของ J&J อาจเป็นเพราะตําแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งและแนวโน้มการเติบโตในด้านต่างๆ เช่น การรักษามะเร็งมัยอีโลมาหลายชนิด

สําหรับนักลงทุนที่ต้องการการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมมากขึ้น InvestingPro ขอเสนอเคล็ดลับและข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม ปัจจุบัน มีเคล็ดลับ InvestingPro อีก 11 ข้อสําหรับ Johnson & Johnson ซึ่งให้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและสถานะทางการตลาดของบริษัท

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน