เมื่อวันศุกร์ Citi ได้เริ่มความคุ้มครองหุ้น Archrock (นิวยอร์ก:AROC) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอัดก๊าซธรรมชาติ โดยมีเรตติ้งซื้อและราคาเป้าหมายที่ 24.00 ดอลลาร์
บริษัทคาดการณ์อัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น EBITDA (CAGR) สองปีที่ใกล้เคียงประมาณ 15% แนวโน้มในแง่ดีนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยการเติบโตหลายประการที่คาดการณ์ไว้สําหรับบริษัท
การเริ่มต้นความคุ้มครองได้รับการสนับสนุนจากความคาดหวังของการเติบโตแบบออร์แกนิกภายในธุรกิจที่มีอยู่ของ Archrock ด้วยกองเรือประมาณ 2 ใน 3 ของบริษัทที่ดําเนินงานในภูมิภาค Permian และ Eagle Ford Archrock พร้อมที่จะได้รับประโยชน์จากความต้องการก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการขยายกําลังการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG)
การวิเคราะห์ของ Citi ชี้ให้เห็นว่า Archrock มีแนวโน้มที่จะเพิ่มกําลังมากกว่า 300,000 แรงม้า (HP) ในการดําเนินงานในอีกสองปีข้างหน้า โดยขยายกองเรือปัจจุบันเกือบ 10% การขยายตัวนี้คาดว่าจะได้รับการสนับสนุนจากรายจ่ายด้านทุนที่มั่นคงประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ต่อปี
นอกเหนือจากการเติบโตของกองเรือแบบออร์แกนิกแล้ว Archrock ยังคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากข้อได้เปรียบด้านราคาในตลาดที่มีโครงสร้างตึงตัว Citi คาดการณ์การเติบโตในระดับต่ําถึงกลางตัวเลขเดียวในด้านนี้ในอีกสองปีข้างหน้า ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลการดําเนินงานทางการเงินของบริษัทต่อไป
การเข้าซื้อกิจการ TOPS ล่าสุดโดย Archrock ยังได้รับการเน้นย้ําว่ามีส่วนสําคัญต่อ EBITDAth ของบริษัท การย้ายครั้งนี้คาดว่าจะเพิ่ม EBITDA ประมาณ 140 ล้านดอลลาร์ (ก่อนการทํางานร่วมกัน) และเพิ่มกองเรือมากกว่า 500,000 แรงม้า นอกจากนี้ยังช่วยให้ Archrock ได้สัมผัสกับตลาดแรงม้าไฟฟ้าที่กําลังขยายตัว ซึ่งถือเป็นก้าวเชิงกลยุทธ์สําหรับบริษัทในการกระจายการดําเนินงาน
ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ Archrock เป็นจุดสนใจของการรายงานข่าวของนักวิเคราะห์ในเชิงบวกเสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการครั้งสําคัญและรายงานผลประกอบการทางการเงินที่แข็งแกร่ง บริษัทการลงทุน Evercore ISI และ JPMorgan ต่างก็ได้ริเริ่มความคุ้มครองใน Archrock โดยให้คะแนนหุ้นว่ามีประสิทธิภาพดีกว่าและน้ําหนักเกินตามลําดับ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงตําแหน่งที่แข็งแกร่งของบริษัทในตลาดการอัดก๊าซและศักยภาพในการเติบโตท่ามกลางความต้องการก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น
Archrock เพิ่งสรุปการเข้าซื้อกิจการ Total Operations and Production Services (TOPS) โดยขยายบริการบีบอัด naturEBITDA ในลุ่มน้ําเพอร์เมียน การเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์นี้คาดว่าจะมีส่วนสําคัญต่อการเติบโตของ EBITDA ของ Archrock และเสริมความได้เปรียบในการแข่งขันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
EBITDA>
ในด้านการเงิน Archrock รายงานรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมาก สูงถึง 34 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 25 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วของบริษัทก็เพิ่มขึ้น 15% เป็น 130 ล้านดอลลาร์ เพื่อเป็นเงินทุนสําหรับกลยุทธ์การขยายตัว Archrock ได้กําหนดราคาหุ้นกู้อาวุโสมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์ โดยมีอัตราดอกเบี้ย 6.625% ซึ่งจะครบกําหนดในปี 2032
นี่คือการพัฒนาล่าสุดที่สร้างภูมิทัศน์ทางธุรกิจของ Archrock เมื่อการพัฒนาเหล่านี้คลี่คลาย คาดว่าจะมีอิทธิพลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและกิจกรรมทางการตลาดที่เกี่ยวข้องกับหุ้น Archrock
นิวยอร์ก
ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro
การเปลี่ยนแปลงของตลาดและตัวชี้วัดทางการเงินในปัจจุบันของ Archrock (NYSE:AROC) ซึ่งสะท้อนให้เห็นในข้อมูลแบบเรียลไทม์จาก InvestingPro สนับสนุนแนวโน้มเชิงบวกที่นําเสนอโดย Citi ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 3.54 พันล้านดอลลาร์และการเติบโตของรายได้ในช่วงสิบสองเดือนที่ยับยั้ง 15.61% บริษัทแสดงให้เห็นถึงสุขภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งและศักยภาพในการเติบโต อัตราส่วน P/E อยู่ที่ 22.76 ซึ่งเมื่อจับคู่กับอัตราส่วน PEG เพียง 0.24 ส่งสัญญาณว่าหุ้นซื้อขายในราคาที่ต่ําเมื่อเทียบกับศักยภาพการเติบโตของรายได้ในระยะสั้น
นักลงทุนอาจรู้สึกสบายใจในการจ่ายเงินปันผลที่สม่ําเสมอของบริษัทในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในปัจจุบันอยู่ที่ 3.27% ผลตอบแทนที่สม่ําเสมอต่อผู้ถือหุ้นนี้เสริมด้วยผลตอบแทนรวมของราคาหนึ่งปีที่แข็งแกร่งที่ 58.38% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผลการดําเนินงานของตลาด
สําหรับผู้ที่ต้องการการวิเคราะห์เชิงลึก InvestingPro นําเสนอข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Archrock รวมถึงการประมาณมูลค่ายุติธรรมและตัวชี้วัดทางการเงินโดยละเอียดยิ่งขึ้น ด้วยเคล็ดลับ InvestingPro อีก 7 ข้อ รวมถึงสถานะสภาพคล่องของบริษัทและการคาดการณ์ความสามารถในการทํากําไร นักลงทุนสามารถเข้าถึงมุมมองที่ครอบคลุมของโปรไฟล์การลงทุนของ Archrock ได้ที่ InvestingPro
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน