BofA เพิ่มเป้าหมายหุ้น Philip Morris คงอันดับซื้อไว้

เมื่อวันพุธ BofA Securities ได้อัปเดตจุดยืนเกี่ยวกับหุ้นของ Philip Morris International Inc. (นิวยอร์ก:P M) ที่เพิ่มขึ้นซื้อ ราคาเป้าหมายเป็น 139 ดอลลาร์จาก 125 ดอลลาร์ ในขณะที่ย้ําเรตติ้งซื้อหุ้น การปรับเปลี่ยนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก Jacek Olczak ซีอีโอของบริษัทนําเสนอในการประชุมสินค้าอุปโภคบริโภคในบอสตันเมื่อต้นสัปดาห์นี้

ในระหว่างงาน Philip Morris ยืนยันการคาดการณ์กําไรต่อหุ้น (EPS) ที่ปรับลดแล้วสําหรับปี 2024 โดยคาดการณ์ไว้ในช่วง 6.33 ถึง 6.45 ดอลลาร์ ซึ่งแปลว่าเพิ่มขึ้น 5.3% ถึง 7.3% จากปีก่อนหน้า การประมาณการนี้รวมถึงผลกระทบเชิงลบของสกุลเงินที่ 0.34 ดอลลาร์ต่อหุ้น

ไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน Philip Morris คาดว่า EPS จะเติบโต 11% ถึง 13% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยตั้งเป้าไว้ที่ 6.67 ถึง 6.79 ดอลลาร์ นับตั้งแต่แยกตัวออกจาก Altria ในปี 2008 บริษัทได้เห็นการปรับปรุงคุณภาพของรายได้และการเติบโตของกําไร การปรับปรุงนี้เกิดจากการเติบโตของปริมาณการเปลี่ยนแปลงที่ดีในส่วนผสมของผลิตภัณฑ์และความสามารถในการกําหนดราคา

Philip Morris คาดว่าจะยังคงทําผลงานได้ดีกว่าคู่แข่งและอาจเกินคําแนะนําของตนเองแม้จะมีความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น เช่น การห้ามใช้รสชาติสําหรับผลิตภัณฑ์ยาสูบอุ่นในยุโรป

วัตถุประสงค์ราคาที่แก้ไขที่ 139 ดอลลาร์แสดงถึงการเพิ่มขึ้น 14 ดอลลาร์ และอิงจากอัตราส่วนราคาต่อกําไรต่อกําไร (P/E) ที่ 19.3 เท่าของกําไรต่อหุ้นโดยประมาณในปี 2025 ที่ 7.18 ดอลลาร์ การประเมินมูลค่าสะท้อนให้เห็นถึงพรีเมี่ยม 20-25% จากอัตราส่วน P/E เฉลี่ยที่ 15.7 เท่าตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2017 ซึ่งเป็นช่วงที่สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ประกาศแนวทางการกํากับดูแลใหม่สําหรับนิโคติน

ปัจจุบัน Philip Morris ซื้อขายที่ส่วนลด 11% เมื่อเทียบกับดัชนี S&P 500 ซึ่งแคบกว่าส่วนลดเฉลี่ยในอดีตที่ 16% ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2017 แต่กว้างกว่าส่วนลดเฉลี่ย 10 ปีที่ 8%

ปีต่อๆ ไปคาดว่าจะเป็นช่วงการลงทุนที่สําคัญในตลาดสหรัฐฯ สําหรับ Philip Morris อย่างไรก็ตาม บริษัทถูกมองว่าอยู่ในตําแหน่งที่ดีสําหรับความสําเร็จในระยะยาว BofA Securities เน้นย้ําถึงผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าสนใจของ Philip Morris และการมุ่งเน้นเชิงกลยุทธ์ในการซื้อในการเปลี่ยนผู้สูบบุหรี่ไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากําไรสูงกว่าและเป็นอันตรายน้อยกว่า

ในข่าวซื้ออื่น ๆ Philip Morris International ได้เห็นการปรับเปลี่ยนในเชิงบวกในแนวโน้มทางการเงิน Stifel ได้เพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นของบริษัทเป็น 138 ดอลลาร์จาก 120 ดอลลาร์ โดยย้ําเรตติ้งซื้อ การแก้ไขนี้เป็นไปตามการนําเสนอที่มั่นใจของบริษัทในการประชุมเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งได้ยืนยันแนวทางทั้งปีสําหรับปี 2024 อีกครั้ง และเน้นย้ําถึงการเติบโตที่ขับเคลื่อนโดยผลิตภัณฑ์ปลอดบุหรี่และประสิทธิภาพที่ยืดหยุ่นในผลิตภัณฑ์ที่ติดไฟได้

นอกจากนี้ Philip Morris ยังมุ่งมั่นที่จะลงทุนในทางเลือกปลอดบุหรี่ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 38% ของรายได้สุทธิของบริษัทในช่วงครึ่งแรกของปี 2024

บริษัทยังได้ลงทุนจํานวนมาก 232 ล้านดอลลาร์ในโรงงานผลิตในโอเวนส์โบโร รัฐเคนตักกี้ เพื่อเพิ่มกําลังการผลิตสําหรับถุงนิโคติน ZYN ซึ่งคาดว่าจะสร้างงานใหม่โดยตรง 450 ตําแหน่ง และผลกระทบทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคประมาณ 277 ล้านดอลลาร์ต่อปี

ในแง่ของบันทึกของนักวิเคราะห์ GGoldman Sachs ได้เพิ่ม Philip Morris International ในรายชื่อความเชื่อมั่นของสหรัฐฯ ซึ่งบ่งชี้ถึงความมั่นใจในผลการดําเนินงานทางการตลาดที่เป็นไปได้ของบริษัท Deutsche Bank และ BofA Securities ยังรักษาอันดับซื้อสําหรับหุ้นของบริษัท

แม้จะเผชิญกับความท้าทายในอุตสาหกรรม แต่ Philip Morris ยังคงคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2024 โดยคาดว่ากําไรต่อหุ้นปรับลดที่ปรับปรุงแล้วจะเพิ่มขึ้น 11% ถึง 13% สุดท้ายนี้ บริษัทยังคงให้ความสําคัญกับความยั่งยืนและการประหยัดต้นทุนท่ามกลางการพัฒนาล่าสุดเหล่านี้

การลงทุนนิวยอร์ก

Philip Morris International Inc. (NYSE:PM) ได้แสดงให้เห็นถึงผลการดําเนินงานทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่โดดเด่นที่ 197.27 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเน้นย้ําถึงการมีอยู่อย่างมีนัยสําคัญในอุตสาหกรรม นักลงทุนอาจพบว่าอัตรากําไรขั้นต้นของบริษัทน่าประทับใจเป็นพิเศษ โดยอยู่ที่ 63.87% ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 2 ปี 2024 ตัวเลขนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงการดําเนินงานที่มีประสิทธิภาพของบริษัท แต่ยังสอดคล้องกับการปรับปรุงรายได้และการเติบโตของกําไรที่กล่าวถึงในบทความ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังแสดงให้เห็นถึงผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น ผ่านอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.14% และบริษัทฯ ได้เพิ่มเงินปันผลต่อเนื่อง 16 ปี ซึ่งอาจดึงดูดนักลงทุนที่มุ่งเน้นรายได้

ด้วยอัตราส่วน P/E ที่ 22.47 Philip Morris ซื้อขายในราคาพรีเมี่ยม ซึ่งอาจพิสูจน์ได้จากตําแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งและประสิทธิภาพที่สม่ําเสมอ เคล็ดลับ InvestingPro ยังเน้นย้ําว่าหุ้นกําลังซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ โดยมีเปอร์เซ็นต์ราคา 99.82% ของระดับสูงสุดนั้น ซึ่งบ่งชี้ถึงผลการดําเนินงานที่แข็งแกร่งล่าสุด สําหรับผู้อ่านที่สนใจเจาะลึกเกี่ยวกับตัวชี้วัดของบริษัทและแนวโน้มในอนาคต InvestingPro ขอเสนอเคล็ดลับเพิ่มเติม บนแพลตฟอร์ม นักลงทุนสามารถสํารวจเคล็ดลับ InvestingPro มากกว่า 10 ข้อ ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและผลการดําเนินงานของหุ้นของ Philip Morris ซึ่งอาจเป็นแนวทางในการตัดสินใจลงทุน

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน