Merck เริ่มระยะที่ 2bMerckial สําหรับการรักษาดวงตาเบาหวาน

ราห์เวย์ นิวเจอร์ซีย์ - เมอร์ค (นิวยอร์ก: MRK) และ EyeBio ซึ่งเป็นบริษัทในเครือได้ประกาศการเริ่มต้นการทดลอง BRUNELLO ซึ่งเป็นการศึกษาที่สําคัญที่ประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยาวิจัย Restoret (MK-3000) สําหรับผู้ป่วยโรคจอประสาทตาบวมน้ําจากเบาหวาน (DME) การทดลองนี้เป็นไปตามผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจจากการศึกษา AMARONE ระยะที่ 1/2 ก่อนหน้านี้ ซึ่งบ่งชี้ถึงประโยชน์ที่เป็นไปได้ของ MK-3000 สําหรับโรคจอประสาทตา

การศึกษา BRUNELLO เป็นการทดลองทางคลินิกระยะที่ 2b/3 แบบสุ่มแบบสวมหน้ากากสองชั้นที่ออกแบบมาเพื่อเปรียบเทียบผลของ MK-3000 สองระดับกับกลุ่มควบคุมที่ใช้งานอยู่ ผู้เข้าร่วมจะได้รับการรักษาทุกสี่สัปดาห์ในปีแรก โดยมีช่วงเวลาการรักษาส่วนบุคคลในปีที่สอง มาตรการหลักของการทดลองคือความปลอดภัยและการเปลี่ยนแปลงเฉลี่ยในการมองเห็นที่แก้ไขได้ดีที่สุด (BCVA) จากพื้นฐานถึงสัปดาห์ที่ 52

DME เป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานที่อาจนําไปสู่ความบกพร่องทางสายตาหรือตาบอด ส่งผลกระทบต่อผู้คนประมาณ 750,000 คนในสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นควบคู่ไปกับความชุกของโรคเบาหวานที่เพิ่มขึ้น MK-3000 ซึ่งเป็นแอนติบอดี Wnt ไตรฟัลเลนต์ ไตรเฉพาะเจาะจง กําลังได้รับการศึกษาว่าเป็นตัวเลือกแรกของ Merckment ที่มีศักยภาพในการฟื้นฟูและรักษาเกราะป้องกันเลือดและจอประสาทตาโดยกําหนดเป้าหมายการรั่วไหลของหลอดเลือดในจอประสาทตา

เมอร์ค ผู้นําด้านการดูแลสุขภาพระดับโลก ให้ความสําคัญกับความมุ่งมั่นในการพัฒนาการรักษาโรคที่มีความต้องการทางการแพทย์ที่ไม่ได้รับการตอบสนอง การเริ่มต้นการทดลอง BRUNELLO ถือเป็นก้าวสําคัญใน Merckts ของบริษัทในการพัฒนานวัตกรรมการรักษาสําหรับโรคจอประสาทตา รวมถึง DME และจอประสาทตาเสื่อมที่เกี่ยวข้องกับอายุของหลอดเลือดใหม่ (NVAMD)

การพัฒนา MK-3000 สอดคล้องกับภารกิจที่กว้างขึ้นของเมอร์คในการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์เพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ด้านสุขภาพทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับยาวิจัยทั้งหมด MK-3000 ต้องผ่านการทดสอบที่เข้มงวด Merck รับรองความปลอดภัยและประสิทธิภาพก่อนจึงจะได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกํากับดูแลและกลายเป็น av Merck le ในเชิงพาณิชย์

ข้อมูลเกี่ยวกับการทดลองของ BRUNELLO และการพัฒนาของ Restoret อ้างอิงจากแถลงการณ์ข่าวประชาสัมพันธ์จาก Merck & Co., Inc. รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทดลองสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ ClinicalTrials.gov พร้อมตัวระบุ NCT06571045

ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ ผลประกอบการไตรมาสที่สองของ Merck & Co สําหรับปี 2024 สูงกว่า markeMerckectations ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของยอดขายแบบออร์แกนิกอย่างมีนัยสําคัญในแฟรนไชส์ CM&E และมะเร็งวิทยา Merckthin ภาคส่วนสุขภาพและในแผนก Mercklectronics บริษัทได้แก้ไขคําแนะนําทั้งปี 2024 โดยคาดการณ์ยอดขายสุทธิระหว่าง 20.7 พันล้านยูโรถึง 22.1 พันล้านยูโร TD Cowen ยังคงให้คะแนนซื้อสําหรับเมอร์ค แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับวัคซีน Gardasil ในตลาดจีนและฐานที่ลดลงสําหรับปี 2024 เป้าหมายการเติบโตของบริษัทสําหรับ Merck ตั้งแต่ปี 2024 ถึง 2030 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของบริษัทในการเติบโตในด้านอื่นๆ ของ Merckdence

ในขอบเขตของการทดลองทางคลินิก Merck ได้ริเริ่มการทดลองระยะที่ 3 สําหรับ bomedemstat ซึ่งเป็นการรักษาที่มีศักยภาพสําหรับภาวะเกล็ดเลือดที่จําเป็น ซึ่งเป็นความผิดปกติของเลือดที่หายาก อย่างไรก็ตาม การทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 สองครั้ง ได้แก่ KEYNOTE-867 และ KEYNOTE-630 ถูกระงับเนื่องจาก Merck มีประสิทธิภาพเพียงพอของ KEYTRUDA ในการรักษามะเร็งปอดที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็กและมะเร็งเซลล์สความัสที่ผิวหนัง

ค่านายหน้ายุโรปได้อนุมัติ KEYTRUDA ต่อต้าน PMerckherapy ของ Merck ร่วมกับ Padcev สําหรับการรักษามะเร็งท่อปัสสาวะระยะแพร่กระจายของ Merck ที่ไม่สามารถผ่าได้ นี้ mMerck ค่านายหน้ากระเพาะปัสสาวะครั้งที่สามสําหรับ KEYTRUDA ในสหภาพยุโรป นอกจากนี้ ค่านายหน้ายุโรปยังอนุมัติการบําบัดของ Merck, WINREVAIR, Merckhe การรักษาความดันโลหิตสูงในปอด ซึ่งเป็นการบําบัดด้วยสารยับยั้งการส่งสัญญาณ activin ครั้งแรกในสหภาพยุโรป

สุดท้ายนี้ ฝ่ายบริหารของไบเดนได้เริ่มการเจรจาราคากับโครงการสุขภาพ Medicare สําหรับยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ 10 ชนิด รวมถึง Januvia ของ Merck การเจรจาเหล่านี้คาดว่าจะช่วยรัฐบาลสหรัฐฯ ประหยัดเงินได้ 6 พันล้านดอลลาร์ในการพัฒนาล่าสุดของ yesMerckese ครั้งแรกเน้นย้ําถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ Merck & Co ต่อนวัตกรรมและการเติบโต

ข้อมูลเชิงลึกของ InveMer

ในขณะที่ Merck (NYSE: MRK) เริ่มการทดลอง BRUNELLO ที่สําคัญสําหรับยาวิจัย RestorMerckK-3000) สุขภาพทางการเงินและสถานะทางการตลาดของบริษัทนําเสนอบริบทเพิ่มเติมสําหรับนักลงทุนที่ติดตามความคืบหน้าของการรักษาใหม่ที่มีศักยภาพสําหรับอาการบวมน้ําจากเบาหวาน (DME) จากข้อมูลล่าสุดจาก InvestingPro Merck มีมูลค่าตลาด ที่แข็งแกร่งของ Merck ที่ 295.51 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการปรากฏตัวที่สําคัญในอุตสาหกรรมยา การ Merck สําคัญของบริษัทในด้านนวัตกรรมและการดูแลผู้ป่วยสะท้อนให้เห็นในผลการดําเนินงานทางการเงิน โดยมีอัตราส่วนราคา/กําไร (P/E) ที่ 21.52 ปรับเป็น 17.81 ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 2 ปี 2024 ซึ่งบ่งชี้ถึงความสมดุลระหว่างมูลค่าตลาดและศักยภาพในการสร้างรายได้

เคล็ดลับ InvestingPro เน้นย้ําถึงประวัติการขึ้นเงินปันผลของ Merck เป็นเวลา 13 ปีติดต่อกัน โดยเน้นย้ําถึงความมั่นคงทางการเงินและความมุ่งมั่นในการคืนมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ Merck คาดว่าจะมีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นในปีนี้ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่ดีสําหรับนักลงทุนที่กําลังมองหาการเติบโตในภาคการดูแลสุขภาพ ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ พร้อมกับข้อเท็จจริงที่ว่า Merck ดําเนินงานด้วยหนี้ในระดับปานกลางและรักษาความผันผวนของราคาให้ต่ํา ทําให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสําหรับผู้ที่แสวงหาการผสมผสานระหว่างความมั่นคงและการเติบโตที่มีศักยภาพในพอร์ตโฟลิโอของตน

ด้วยอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 2.64% จากข้อมูลล่าสุดและประวัติการรักษาการจ่ายเงินปันผลเป็นเวลา 54 ปีติดต่อกัน Merck โดดเด่นในฐานะผู้ดําเนินการที่สม่ําเสมอในตลาด สําหรับนักลงทุนที่สนใจที่จะสํารวจเพิ่มเติม มีเคล็ดลับ InvestingPro เพิ่มเติมที่เจาะลึกถึงความแตกต่างทางการเงินและตําแหน่งในอุตสาหกรรมของเมอร์ค เคล็ดลับเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้ผ่านผลิตภัณฑ์ InvestingPro โดยเฉพาะ ซึ่งให้การวิเคราะห์ที่ครอบคลุมสําหรับการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน