เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Citi ได้อัปเดตจุดยืนเกี่ยวกับ trivago N.V. (แนสแด็ก:TRVG) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการค้นหาโรงแรมระดับโลก โดยลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 2.20 ดอลลาร์จาก 2.60 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ในขณะที่ถือหุ้นไว้สําหรับหุ้น การปรับดังกล่าวเป็นไปตามรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สองของบริษัทสําหรับปี 2024
เป้าหมายราคาที่แก้ไขมีขึ้นหลังจาก trivago รายงานรายได้ในไตรมาสที่สองที่ 119 ล้านยูโร ซึ่งลดลง 5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสอดคล้องกับการประมาณการที่เป็นเอกฉันท์ การลดลงนี้เกิดจากการเติบโตของรายได้ของแบรนด์และความท้าทายอย่างต่อเนื่องในการตลาดเชิงประสิทธิภาพ
รายงาน EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วของบริษัทสําหรับไตรมาสนี้อยู่ที่ (5.4) ล้านยูโร ซึ่งต่ํากว่าประมาณการที่เป็นเอกฉันท์เล็กน้อยที่ (4.6) ล้านยูโร ค่าใช้จ่ายในการโฆษณาแบรนด์ที่เพิ่มขึ้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทําให้ขาดแคลนนี้
Trivago ประสบกับความแตกต่างในระดับภูมิภาคในผลการดําเนินงาน โดยประเทศที่พัฒนาแล้ว ยุโรปเห็นรายได้ลดลง 17% เมื่อเทียบเป็นรายปี นี่เป็นเพราะปริมาณการตลาดประสิทธิภาพที่ลดลง ซึ่งเชื่อมโยงกับรูปแบบการโฆษณาใหม่บน Google อย่างไรก็ตาม ภูมิภาคอเมริกาแสดงสัญญาณที่สดใส โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบเป็นรายปี
การประเมินของ Citi บ่งชี้ถึงความคาดหวังสําหรับการเติบโตของรายได้ของ trivago ที่จะเปลี่ยนเป็นบวกในไตรมาสที่สี่ เนื่องจากบริษัทเริ่มเห็นประโยชน์ของความพยายามในการสร้างแบรนด์ นอกจากนี้ trivago ยังประกาศการเข้าซื้อหุ้น 30% ใน Holito ซึ่งเป็นบริษัทราคาโรงแรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI การย้ายนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ trivago
ในขณะที่ trivago นําทางผ่านความท้าทายทางการตลาดด้านประสิทธิภาพและเพิ่มการโฆษณาแบรนด์
ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ trivago ได้รายงานว่ารายได้ในไตรมาสที่ 2 ลดลง 5% เป็น 118.6 ล้านยูโร ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบโฆษณาของ Google แม้จะมีความพ่ายแพ้นี้ แต่บริษัทยังคงมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับการกลับมาเติบโตในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานของ Trivago เพิ่มขึ้นเป็น 127.4 ล้านยูโร ซึ่งนําไปสู่การขาดทุนสุทธิ 4.9 ล้านยูโรในไตรมาสนี้
อย่างไรก็ตาม บริษัทกําลังมุ่งเน้นไปที่แคมเปญการตลาดของแบรนด์และการลงทุนใน Holisto แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้และเพิ่มอัตราการแปลง ฝ่ายบริหารของบริษัทยังคงไว้วางใจศักยภาพการเติบโตของ EBITDA และคาดว่าจะนํา EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วไปสู่ระดับคุ้มทุนตลอดทั้งปี
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน