โดย Ambar Warrick
Investing.com – ราคาทองคำอยู่ต่ำกว่าระดับแนวรับที่สำคัญในวันจันทร์ เนื่องจากมีสัญญาณเตือนล่วงหน้าก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ สองวัน โดยตลาดโลหะอื่น ๆ ก็มีการเคลื่อนไหวเล็กน้อยเช่นกัน
ราคาทองคำแท่งยังคงสั่นคลอนจากการขาดทุนอย่างหนักในวันศุกร์ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่า 4% จากการคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 75 จุดพื้นฐานในสัปดาห์นี้
เงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะสูงขึ้น
ราคา สปอตทองคำ เพิ่มขึ้น 0.1% เป็น 1,644.42 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ ทองคำฟิวเจอร์ส ก็เพิ่มขึ้น 0.1% แตะ 1,646.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อ 19:32 น. ET (23:32 GMT)
ราคาของทองคำร่วงลงอย่างรวดเร็วจากระดับสูงสุดในรอบสองปีในปีนี้ เนื่องจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งของเฟดทำให้ค่าเสียโอกาสในการถือทองคำสูงขึ้น แนวโน้มนี้คาดว่าจะดำเนินต่อไปในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงใช้นโยบายที่เข้มงวดเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงส่งผลกระทบต่อเนื่อง
ข้อมูลในวันศุกร์บ่งชี้ว่าแรงกดดันเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ผ่อนคลายลง โดยดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลแสดงการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนกันยายน ซึ่งดัชนีนี้เป็นตัววัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดต้องการ และตลาดอาจเห็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
เฟดได้รับการคาดหมายอย่างกว้างขวางว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 จุดพื้นฐานในสัปดาห์นี้ แต่ความคาดหวังว่าธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 50 จุดพื้นฐานในเดือนธันวาคมก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินในปี 2008
สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อตลาดโลหะ โดยราคาทองแดงลดลงเล็กน้อยในวันจันทร์หลังจากกลับตัวขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทองแดงฟิวเจอร์สร่วงลง 0.4% เป็น 3.4227 ดอลลาร์ต่อปอนด์ในวันจันทร์ ราคาของทองแดงเพิ่งปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในรอบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่ได้ชดเชยสัญญาณว่าอุปทาน ทองแดง มีแนวโน้มที่จะตึงตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซาของผู้บริโภคทองแดงรายใหญ่อย่างจีน ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในยูโรโซนทำให้เกิดความกังวลอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับความต้องการทองแดงที่ชะลอตัว
อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทั่วโลกคาดว่าจะทำให้ราคาทองแดงอ่อนตัวลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า