โดย Ambar Warrick
Investing.com – ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในวันจันทร์ โดยฟื้นตัวจากการขาดทุนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากสมาชิกของ OPEC+ อีกหลายประเทศได้แสดงการสนับสนุนให้ลดการผลิตลงกว่า 2 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อเร็ว ๆ นี้ แม้ว่าจะมีการต่อต้านที่เพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ ก็ตาม
สมาชิกหลายประเทศของ OPEC และพันธมิตร รวมทั้งซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิรัก และคูเวต แสดงการสนับสนุนให้มีการลดกำลังการผลิตในช่วงสุดสัปดาห์ โดยแสดงความจำเป็นร่วมกันในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันท่ามกลางอุปสรรคทึ่มาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ ที่ซื้อขายในลอนดอนเพิ่มขึ้น 1.1% เป็น 92.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.9% เป็น 85.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเวลา 20:46 น. ET (00:46 GMT) สัญญาทั้งสองฉบับฟื้นตัวจากการขาดทุน 7% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและน้ำมันคงคลังในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด
สมาชิก OPEC+ ได้ย้ำถึงการสนับสนุนต่อแผนการลดอุปทานท่ามกลางความแตกแยกที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐอเมริกาและซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้นำของกลุ่มพันธมิตรฯ ฝ่ายบริหารของไบเดนวิพากษ์วิจารณ์การลดการผลิตโดยระบุว่าจะทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้นและยังเป็นการสนับสนุนการทำสงครามของรัสเซียต่อยูเครน
นอกจากนี้ยังกล่าวหาซาอุดิอาระเบียที่เป็นผู้นำ OPEC ว่าบังคับสมาชิกรายย่อยให้ปฏิบัติตามการตัดลดอุปทาน
สมาชิก OPEC+ หลายคนปฏิเสธว่าการตัดราคานี้มีความเกี่ยวข้องกับแรงจูงใจทางการเมือง โดยอ้างว่าเป็นการทำให้ราคาน้ำมันดิบมีเสถียรภาพ ข่าวการปรับลดส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นเมื่อต้นเดือนนี้ โดยเป็นการประกันเสถียรภาพราคา โดยการตัดสินใจนี้ได้หนุนแนวโน้มราคาขาขึ้น
แต่สหรัฐฯ ก็ตอบโต้การลดอุปทานด้วยการปล่อยน้ำมัน 7.7 ล้านบาร์เรลจากคลังสำรองปิโตรเลียมเชิงยุทธศาสตร์ (SPR) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อลดราคาน้ำมันดิบ
สหรัฐฯ นำน้ำมันดิบออกจาก SPR อย่างต่อเนื่องในปีนี้เพื่อช่วยจำกัดราคาน้ำมันสำหรับผู้บริโภคและลดรายได้ที่รัสเซียจะได้รับ ฝ่ายบริหารของไบเดนได้ขู่ว่าจะระบายน้ำมันเพิ่มขึ้นจากการลดอุปทาน ซึ่งอาจทำให้เกิดความผันผวนในตลาดน้ำมันดิบในระยะสั้น
ความต้องการน้ำมันดิบในระยะใกล้อาจได้รับแรงกดดันจากการหยุดชะงักในจีนมากขึ้น ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ประเทศจะยึดมั่นนโยบายปลอดโควิด แม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะเสียหายในวงกว้างในปีนี้ก็ตาม
แต่ประธานาธิบดีของจีนยังกล่าวด้วยว่าปักกิ่งจะเพิ่มการใช้จ่ายและการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในจีนทำให้การนำเข้าน้ำมันดิบลดลงอย่างมากในปีนี้