โดย Gina Lee
Investing.com – ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในเช้าวันจันทร์ในเอเชีย โดยพุ่งขึ้น 2 ดอลลาร์เนื่องจากยูเครนถูกรุกอย่างหนักจากรัสเซีย ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ต่างก็ดิ้นรนในการผลิตโควตาที่จัดสรรไว้ภายใต้ข้อตกลงการผลิต
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ เพิ่มขึ้น 3.08% เป็น 111.25 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 00:34 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (4:34 น. GMT) หลังจากเพิ่มขึ้น 1.2% ในวันศุกร์ก่อนหน้า สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 3.28% เป็น 106.47 ดอลลาร์ ขยายการกระโดดจากช่วงก่อนหน้า 1.7%
อิริน่า เวอร์ชชัค รองนายกรัฐมนตรียูเครน ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าไม่มีทางที่กองกำลังของประเทศจะยอมจำนนในเมืองมารียูปอล เนื่องจากความขัดแย้งที่เกิดจากการรุกรานของรัสเซียที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ไม่มีสัญญาณของการผ่อนคลาย นักลงทุนบางคนจึงตั้งคำถามว่าตลาดสามารถทดแทนอุปทานน้ำมันดิบของรัสเซียที่โดนมาตรการคว่ำบาตรจากตะวันตกได้หรือไม่
นักวิเคราะห์ของ ANZ ระบุในหมายเหตุว่า "ตลาดยังคงวิตกกังวลกับการหยุดชะงักของอุปทาน โดยข้อมูลบ่งชี้ว่ากำลังส่งผลกระทบแล้ว"
รายงานล่าสุดขององค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) แสดงให้เห็นว่าสมาชิกบางส่วนยังคงผลิตได้ไม่ถึงโควตาอุปทานที่ตกลงกันไว้ OPEC+ พลาดเป้าการผลิตไปมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ภายใต้ข้อตกลงที่จะเพิ่มกำลังการผลิต 400,000 บาร์เรลต่อวันในแต่ละเดือน เนื่องจากการย้อนกลับของการปรับลดครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในปี 2021 3 แหล่งข่าวบอกกับรอยเตอร์
สมาชิกสองประเทศที่มีความสามารถในการเพิ่มผลผลิตในทันที ได้แก่ ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ต่อต้านการเรียกร้องให้เร่งการผลิต
แนวโน้มอุปทานที่ย่ำแย่ ควบคู่ไปกับราคาที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency) ในวันศุกร์ (27) ได้ร่างแนวทางในการลดการใช้น้ำมันลง 2.7 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในสี่เดือน วิธีการต่าง ๆ ได้แก่ การจำกัดความเร็ว และการลดต้นทุนการขนส่งสาธารณะ มาตรการเหล่านี้สามารถช่วยชดเชยน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ของรัสเซีย 3 ล้านบาร์เรลต่อวันที่องค์กรคาดว่าจะออกจากตลาดภายในเดือนเมษายน 2022