รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ทองคำกลับมายืนเหนือ $1,800 หลังตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคคลายกังวล

เผยแพร่ 15/09/2564 02:28
อัพเดท 15/09/2564 02:22

โดย Barani Krishnan

Investing.com - ราคาทองคำกลับมายืนเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันอังคารนี้ เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อของผู้บริโภคสหรัฐ (CPI) ในเดือนสิงหาคม ออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่คาดไว้  คลายความกังวลของนักลงทุนบางส่วนที่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะใช้มาตรการลดวงเงินซื้อสินทรัพย์เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

ราคาทองคำ ในตลาด Comex ของนิวยอร์ก ปรับขึ้น $12.70 หรือ 0.7% ที่ 1,807.10 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนไหวระหว่าง 1,783.35 ถึง 1,810.65 ดอลลาร์

ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐอเมริกา ขยายตัว 5.3% ในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยลดลงจากการเติบโตของเดือนกรกฎาคมที่ 5.4% ตามการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ แม้ว่าจะไม่เพียงพอในการป้องกันธนาคารไม่ให้เริ่มลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ แต่ตัวเลขดังกล่าวก็ช่วยคลายความกังวลบางอย่างเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่ไม่สามารถควบคุมได้ นอกจากนี้ยังเป็นการยืนยันว่าแรงกดดันด้านราคาที่เห็นตั้งแต่ต้นปีจะคลี่คลายลงในไตรมาสที่สี่

เอ็ด โมย่า นักวิเคราะห์จากแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ OANDA กล่าวว่า “ดัชนีราคาผู้บริโภคกำลังชะลอตัว และนั่นน่าจะเป็นปัจจัยบวกสำหรับทองคำในระยะสั้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยลดลง” “หลังจากที่ตัวเลข CPI ของเดือนสิงหาคมออกมา ทองคำน่าจะมีโมเมนตัมเพียงพอที่จะทรงตัวเหนือระดับ 1800 ดอลลาร์ แต่ถ้ายืนเหนือราคาดังกล่าวไม่ไหว ราคาทองคำอาจจะแย่กว่าที่คิด”

คำถามว่าเมื่อใดที่เฟดควรจะลดมาตรการกระตุ้นและเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ได้มีการถกเถียงกันอย่างถึงพริกถึงขิงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจขัดแย้งกับการฟื้นตัวของโควิดสายพันธุ์เดลต้า ประธานธนาคารกลาง เจอโรม พาวเวลล์ จะจัดแถลงข่าวในวันพฤหัสบดีหลังจากการประชุมนโยบายรายเดือนสิ้นสุดลง

โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟดและนโยบายการเงินอื่น ๆ กลายเป็นแพะรับบาปสำหรับแรงกดดันด้านราคาที่รุนแรงขึ้นในสหรัฐอเมริกา ธนาคารกลางได้ซื้อพันธบัตรและสินทรัพย์อื่น ๆ มูลค่ารวม 120,000 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ในเดือนมีนาคม 2020 เพื่ออุ้มเศรษฐกิจไว้ นอกจากนี้ยังรักษาอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับแทบเป็นศูนย์ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา

หลังจากที่ลดลง 3.5% ในปี 2020 จากการปิดตัวของธุรกิจอันเนื่องมาจากโควิด-19 เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ โดยขยายตัว 6.5% ในไตรมาสที่สอง ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของธนาคารกลาง

อย่างไรก็ตาม ปัญหาของธนาคารกลางคือเงินเฟ้อ ซึ่งแซงหน้าการเติบโตทางเศรษฐกิจ

มาตรวัดที่ต้องจับตาสำหรับธนาคารกลางคือเงินเฟ้อ - ดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลหลัก ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวน - เพิ่มขึ้น 3.6% ในปีจนถึงเดือนกรกฎาคม สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2534 ดัชนี PCE รวมถึงพลังงานและอาหารเพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี

เป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารกลางคือ 2% ต่อปี


ความคิดเห็นล่าสุด

😍
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย